Page 69 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 69

47


                          ที่สําคัญระหวางผลที่ไดจากการเก็บขอมูลดวยการสัมภาษณและการจัดสนทนากลุมคือ การเก็บ
                          ขอมูลดวยการสัมภาษณ โดยเฉพาะสัมภาษณผูติดเชื้อที่ถูกเลือกปฏิบัติ จะทําใหไดขอมูลที่เปน

                          รายละเอียดจากกรณีศึกษาโดยตรง ในขณะที่ขอมูลที่ไดจากการสนทนากลุม จะเปนขอสรุปรวม
                          ระหวางผูรวมสนทนากลุมในขณะนั้น ขอมูลการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อ
                          เอชไอวีมีทั้งที่เปนประสบการณตรงของผูติดเชื้อที่เขารวมสนทนากลุม และในหลายกรณีเปน
                          ขอมูลที่ผูรวมสนทนากลุมรับรูหรือพบเห็นจากเครือขายผูติดเชื้อมากกวา


                       3.2.1 ขอมูลที่ไดจากการสัมภาษณเชิงลึก
                       การเก็บขอมูลดวยการสัมภาษณเชิงลึก เก็บจากผูใหขอมูลหลัก 4 กลุม โดยกลุมแรกเปนเจาหนาที่ใน
               องคกรที่ทํางานเกี่ยวของกับการสงเสริมและคุมครองสิทธิในปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี

               ซึ่งสามารถใหภาพรวมของสถานการณการเลือกปฏิบัติได ผูเชี่ยวชาญดานเชื้อเอชไอวี ผูติดเชื้อเอชไอวีที่ถูก
               เลือกปฏิบัติและยินยอมใหขอมูล และกลุมสุดทายเปนนายจางที่ยินยอมใหขอมูล ขอมูลจากการสัมภาษณเชิง
               ลึกมีประเด็นสําคัญดังนี้


                       (1) ภาพรวมของสถานการณการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
                       สถานการณการเลือกปฏิบัติของผูติดเชื้อเอชไอวีจากการใหคําปรึกษาของศูนย 1663  สายดวน
                                                       104
               ปรึกษาปญหาเอดส ที่ตั้งอยูที่มูลนิธิเขาถึงเอดส  พบวา ในรอบปที่ผานมา มีผูติดเชื้อที่โทรศัพทมาปรึกษา
               เรื่องสิทธิทั้งหมด 40 เรื่อง โดยมีผูติดเชื้อ 26 รายที่โทรศัพทมาปรึกษาเพราะกังวลวาที่ทํางานใหตรวจเลือด
               กอนทํางานและขณะทํางาน เกรงวาจะมีผลกระทบตอการทํางานและสิทธิการรักษาพยาบาลของบริษัท และ
                                                   105
               ขอคําปรึกษาวาควรจะดําเนินการอยางไร  สวนขอมูลการรองเรียนและการใหคําปรึกษาจากมูลนิธิศูนย
               คุมครองสิทธิดานเอดส (Foundation for AIDS Right- FAR) มีไมมากนัก ผูติดเชื้อจํานวนหนึ่งมักจะโทรศัพท
               มาปรึกษา เมื่อหนวยงานบังคับสงตัวไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี (พยายามหาคนตรวจแทน) ซึ่งมูลนิธิฯ มักจะเสนอ

               ทางออกดวยการใหผูติดเชื้อไปสมัครงานในสถานประกอบการที่ไมมีการตรวจหาเชื้อ โดยเฉพาะบริษัทที่ไดรับ
                                     106
               มาตรฐาน ASO Thailand
                       สภาพปญหาใหญๆ เรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อที่ผานมา มักจะเปนการ

               บังคับใหมีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีกอนการทํางาน และเมื่อตรวจพบเชื้อเอชไอวี นายจางก็ไมจางงาน โดยมี
               กรณีตัวอยางที่สําคัญ ไดแก
                       (1.1)  การบังคับตรวจเลือดกอนจางงาน
                       การบังคับตรวจเลือดกอนจางงาน ถือเปนรูปแบบการเลือกปฏิบัติตอผูติดเชื้อที่มีแพรหลายมากที่สุด

               ในบางหนวยงาน ใชเปนเงื่อนไขหลักในการจางงาน/ไมจางงาน โดยไมพิจารณาประสบการณหรือ
               ความสามารถเสียดวยซ้ํา โดยเหตุผลหลักเปนเรื่องสวัสดิการที่องคกรแหงนั้นจัดใหพนักงานมากกวาที่กฎหมาย
               กําหนด และความหวาดกลัวเกรงวาพนักงานจะไมสามารถทํางานไดอยางเต็มประสิทธิภาพ โดยขอมูลจาก







               104
                 ศูนย 1663 สายดวนปรึกษาปญหาเอดส ตั้งขึ้นจากความรวมมือของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รวมกับ
               ศูนยวิจัยโรคเอดส สภากาชาดไทย และมูลนิธิเขาถึงเอดส เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555
               105
                   เจาหนาที่ศูนย 1663 สายดวนปรึกษาปญหาเอดส มูลนิธิเขาถึงเอดส, สัมภาษณ,23 มกราคม 2556
               106 เจาหนาที่มูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดส, สัมภาษณ, 25 มกราคม 2556
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74