Page 71 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 71

49


               การคุมครองสิทธิมนุษยชน สํานักคุมครองสิทธิมนุษยชน กสม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 เลขรับคํารอง
                         110
               544/2552)
                       การตรวจเลือดในธุรกิจธนาคาร (2556)
                       เมื่อผูติดเชื้อซึ่งทํางานอยูในองคกรขนาดใหญ ไปสมัครงานในตําแหนงพนักงานบริการลูกคาของ
               ธนาคารแหงหนึ่ง หลังจากการสัมภาษณ ฝายบุคคลแจงใหผูติดเชื้อคนนั้นไปตรวจสุขภาพ โดยในรายงานการ
               ตรวจสุขภาพระบุวา ติดเชื้อเอชไอวี ทําใหผูติดเชื้อลําบากใจที่จะสงผลดังกลาว อยางไรก็ดี เนื่องจากกรณีนี้เปน

               กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงยังไมมีความคืบหนาในการดําเนินงาน
                       นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผูสมัครงานที่มีผลเลือดเปน Inter  Minin  (ซึ่งเปนผลเลือดที่ไมชัดเจน แตมี
               แนวโนมวาผลเลือดจะเปนบวก) ถูกปฏิเสธการจางงานดวย
                       อยางไรก็ดี การเลือกปฏิบัติโดยการบังคับตรวจเลือดกอนจางงานถือเปนรูปแบบการเลือกปฏิบัติตอ

               ผูติดเชื้อที่แพรหลายที่สุด ไมวาจะเปนกิจการของรัฐหรือกิจการภาคเอกชน มีธุรกิจอีกจํานวนมากที่บังคับให
               ผูสมัครงานตองตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี แตเนื่องจากไมมีการรองเรียนจากผูติดเชื้อ จึงไมมีการเคลื่อนไหว
               เพื่อแกไขปญหาในกรณีดังกลาว เชน การบังคับตรวจเลือดในกิจการของรัฐวิสาหกิจแหงหนึ่ง เมื่อเจาหนาที่ที่
               รับผิดชอบไดขอมูล แนวปฏิบัติแหงชาติวาดวยการปองกันและบริหารจัดการดานเอดสในสถานที่ทํางาน ก็
                                                                                  111
               โทรศัพทมาปรึกษาเจาหนาที่ในศูนยอํานวยการบริหารจัดการปญหาเอดสแหงชาติ  หรือกรณีที่บริษัทมหาชน
               ขนาดใหญปฏิเสธที่จะขอรับมาตรฐาน ASO THAILAND เนื่องจากองคกรนี้ ยังคงมีแนวทางการบังคับตรวจ
                                      112
               เลือดกอนเขาทํางานเปนตน

                                                                       113
                       (1.2)  ถูกบังคับใหออกจากงานเนื่องจากติดเชื้อเอชไอวี
                       กรณีนี้พบในธุรกิจรานอาหาร (2555) ซึ่งแมวาจะไมมีการบังคับใหตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีขณะ
               จางงาน แตหลังจากผูติดเชื้อเขาไปทํางานไดไมกี่วัน ผูจัดการสถานประกอบการเรียกผูติดเชื้อไปพบและเลาให
               ฟงวา มีลูกคามาแจงวาพนักงานติดเชื้อ จึงเรียกพนักงานที่ติดเชื้อมาสอบถามวาติดเชื้อหรือไม เมื่อพนักงานคน

               ดังกลาวยอมรับวาตนเองติดเชื้อ ก็ถูกตําหนิที่ไมบอกความจริง และใหเหตุผลวา“ถาเพื่อนรวมงานติดเชื้อจะวา
               อยางไร” แมผูติดเชื้อจะพยายามอธิบายถึงชองทางการติดตอ แตผูจัดการก็ไมรับฟง และไมใหมาทํางานอีก
               โดยใหนําบัตรพนักงานมาคืน และแจงวาจะโอนคาจางใหในภายหลัง


                       (2) กรณีศึกษาการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
                       ขอมูลจากการสัมภาษณผูใหขอมูลหลัก ชี้ใหเห็นการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อ
               เอชไอวีใน 2 แบบ คือ การบังคับตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีกอนจางงาน และการใหออกจากงานเมื่อรูวาติด

               เชื้อเอชไอวี เมื่อไดขอมูลจากมูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดส ผูวิจัยไดติดตอสัมภาษณผูติดเชื้อในที่ยินยอมให
               ขอมูลในทั้ง 2 กรณี กรณีแรก เปนผูติดเชื้อที่ไมไดรับการจางงานในธุรกิจขายปลีกที่มีการขายอาหาร และกรณี




               110
                   ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในขอมูลที่ไดจากการสัมภาษณผูติดเชื้อในสวนตอไป
               111
                  ขอมูลจากเจาหนาที่ศูนยอํานวยการบริหารจัดการปญหาเอดสแหงชาติ, การสนทนากลุมเจาหนาที่ของรัฐ เอกชนและ
               องคกรพัฒนาเอกชนที่ทํางานเกี่ยวของกับผูติดเชื้อเอชไอวี 1 มีนาคม 2556
               112
                   ขอมูลจากเจาหนาที่สมาคมแนวรวมธุรกิจไทยตานภัยเอดส, การสนทนากลุมเจาหนาที่ของรัฐ เอกชนและองคกรพัฒนา
               เอกชนที่ทํางานเกี่ยวของกับผูติดเชื้อเอชไอวี 1 มีนาคม 2556
               113  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในขอมูลที่ไดจากการสัมภาษณผูติดเชื้อในสวนตอไป
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76