Page 68 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 68
46
99
โครงการตองตรวจเลือด โดยระบุใหมีการตรวจเชื้อเอชไอวีอยางชัดเจน หรือขอกําหนดของวัดบางแหงที่มี
100
การเผยแพรในอินเตอรเน็ต เปนตน ในขณะที่วัดทั่วไป อาจไมไดเครงครัดกับขอกําหนดเรื่องนี้มากนัก
กรณีขางตน เปนกรณีที่แสดงใหเห็นการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในสถานที่ทํางาน แตในปที่ผานมา
ปรากฏเหตุการณการเลือกปฏิบัติตอผูติดเชื้อในสถานศึกษาอันเปนจุดเริ่มตนสําคัญของการทํางานในอนาคต
เมื่อนักศึกษาพยาบาลในมหาวิทยาลัยเอกชนแหงหนึ่ง ถูกตรวจเลือดระหวางเรียน และเมื่อตรวจพบวาติดเชื้อ
เอชไอวี มหาวิทยาลัยขอใหเปลี่ยนสาขาที่เรียนหรือพักการเรียน โดยมหาวิทยาลัยคืนคาเทอมให โดย
มหาวิทยาลัยอางเหตุผลวา “...จะเปนผลดีทั้งกับตัวนักศึกษาเองที่จะไดดูแลตัวเอง ไมตองเขาไปอยูในภาวะ
เสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อโรคอื่นๆเพิ่ม เนื่องจากในโรงพยาบาลจะมีผูปวยหรือเชื้อโรคตางๆ มาก และยังเปนการ
101
คุมครองสิทธิผูที่จะมารับบริการดวย...” และเปน“...การปกปองสิทธิ์ผูปวยมากกวา....เพราะหากปลอยให
นักศึกษาที่มีโรคที่คนทั่วโลกหวาดกลัวออกไปสัมผัสกับผูปวยแลวเกิดปญหาขึ้นภายหลังจะเสียหายอยางไร
102
เสียหายทั้งสถานพยาบาล เสียหายทั้งสถาบัน เสียหายทั้งมหาวิทยาลัย...” อยางไรก็ดี กรณีนี้มีการรองเรียน
ไปยังสํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติดวย และในระหวางนี้ อยูในระหวางการฟองรองคดีตอ
103
ศาลที่ผูติดเชื้อและเครือขายผูติดเชื้อเปนโจทกรวม
3.2 ผลการศึกษาภาคสนาม
การเก็บขอมูลภาคสนามในโครงการวิจัยนี้ ใชวิธีการเก็บขอมูลเชิงคุณภาพ ซึ่งใหความสําคัญกับการ
ทําความเขาใจและตีความขอมูลอยางลุมลึกในมุมมองแบบคนใน และเก็บขอมูลเชิงลึกจากผูใหขอมูลหลัก
(Key Informant) ซึ่งเปนผูที่สามารถใหขอมูลไดอยางชัดเจน จึงทําใหสามารถไดผลการศึกษาที่หนักแนน และ
เชื่อถือได ซึ่งแตกตางจากการศึกษาเชิงปริมาณที่เนนการสรางขอสรุปทั่วไป (generalization) จึงตองให
ความสําคัญกับจํานวนตัวอยางที่สามารถเปนตัวแทนประชากรได การเก็บขอมูลเชิงปริมาณจึงไมสามารถแสดง
ใหเห็นปญหาเฉพาะบางประการ โดยเฉพาะการเลือกปฏิบัติไดชัดเจน
การนําเสนอผลการเก็บขอมูลภาคสนาม จะแสดงใหเห็นลักษณะที่แตกตางกันของขอมูลที่ไดมาจาก
วิธีการเก็บขอมูล 2 แบบ คือ
(1) ขอมูลที่ไดจากการสัมภาษณเชิงลึก การสัมภาษณเชิงลึก (in-depth interview) เปนเครื่องมือที่
เหมาะสําหรับการเก็บขอมูลกับผูใหขอมูลหลักหรือกรณีศึกษาที่แตกตางไปจากกรณีทั่วไป
อยางไรก็ดี เนื่องจากขอมูลของผูติดเชื้อถือเปนความลับเฉพาะบุคคล การเขาถึงขอมูลจําเปนตอง
ไดรับการยินยอมจากตัวผูติดเชื้อเอง ในบางกรณี จึงไมสามารถสัมภาษณตัวผูติดเชื้อไดโดยตรง
แตอาศัยการสัมภาษณตัวกลางซึ่งเปนผูไดรับการติดตอจากผูติดเชื้ออีกตอหนึ่ง
(2) ขอมูลที่ไดจากการสนทนากลุม ทั้งที่เปนการสนทนากลุมทั่วไป และการสนทนากลุมแบบ
ปรึกษาหารือ (deliberative focus group) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเก็บขอมูลในโครงการ ความแตกตาง
99
แบบฟอรมการตรวจรางกาย ในหนังสือสภาผูแทนราษฎรที่ 8225/2552 วันที่ 4 ธันวาคม 2552 จากประธาน
คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ถึงผูอํานวยการโรงพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชนทุกแหงทั่วประเทศ เพื่อ
ขอความอนุเคราะหใหการสนับสนุนการตรวจรางกายและตรวจเลือดของผูที่จะเขาอุปสมบท
100
ดูตัวอยางไดใน http://www.watphrasri.org/index.php?option=com_content&task=view&id=39&Itemid=25
101
เดลินิวส 28 สิงหาคม 2555 [online] available from http://www.dailynews.co.th/education/152148
102
ขาวสด 28 สิงหาคม 2555 [online] available from
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhNVEk0TURnMU5RPT0=
103 ประธานเครือขายผูติดเชื้อเอชไอวีแหงประเทศไทย, การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิเคราะหขอมูล, 24 ตุลาคม 2556