Page 64 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 64
42
ถาพิจารณาเฉพาะการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ พบวา กวารอยละ 26.18 เคยถูกปฏิเสธการ
จางงานดวยเหตุผลเรื่องการติดเชื้อเอชไอวี และรอยละ 32.19 เคยสูญเสียงานและแหลงรายไดเนื่องจากการ
ติดเชื้อเอชไอวี เฉพาะในกลุมผูติดเชื้อที่สูญเสียงานและแหลงรายได รอยละ 30.28 ระบุวาสาเหตุของการ
สูญเสียงานและแหลงรายได เปนเพราะสถานะการเปนผูติดเชื้อ และเฉพาะกลุมที่ตอบวาสาเหตุของการตกงาน
หรือสูญเสียรายไดเนื่องจากสถานะการติดเชื้อเอชไอวี รอยละ 30.97 ตอบวาสาเหตุหลักนั้นมาจากการเลือก
ปฏิบัติของนายจางและเพื่อนรวมงาน นอกจากนี้ กลุมตัวอยางรอยละ 11.59 ยังเคยถูกเปลี่ยนแปลงลักษณะ
งานทั้งในดานเนื้อหา แนวปฏิบัติหรือเคยถูกปฏิเสธการเลื่อนตําแหนงหรือการมีความดีความชอบอัน
84
เนื่องมาจากสถานะการเปนผูติดเชื้อดวย
สําหรับเรื่องการเปดเผยขอมูลสถานะการติดเชื้อในที่ทํางาน ขอมูลจากงานวิจัยดังกลาวแสดงใหเห็น
วา กลุมตัวอยาง รอยละ 13.17 ตอบวานายจาง/หัวหนางานรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวี โดยมีคนอื่นมาบอก
โดยที่เจาตัวไมไดยินยอม รวมไปถึงมีสถานการณที่เพื่อนรวมงานรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของพวกเขาจาก
85
คนอื่นมาบอกโดยที่เจาตัวไมยินยอมดวย (รอยละ 15.22) และเมื่อนายจางรับรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของ
พวกเขา กลุมตัวอยางรอยละ 9.87 รูสึกวาพวกเขาถูกเลือกปฏิบัติ (เลือกปฏิบัติอยางมาก รอยละ 3.00 เลือก
ปฏิบัติอยูบาง รอยละ 6.87) อยางไรก็ดี ขอมูลดังกลาวยังแสดงใหเห็นแนวโนมที่ดี เมื่อพวกเขารูสึกวา การ
เปดเผยสถานะการติดเชื้อ ไมไดทําใหนายจาง/หัวหนางานมีปฏิกิริยาตางไปจากเดิม (รอยละ 9.01) และมีการ
ใหความชวยเหลืออยูบาง (รอยละ 11.59) สําหรับในสวนของเพื่อนรวมงาน กลุมตัวอยางรอยละ 8.58 รูสึกวา
พวกเขาถูกเลือกปฏิบัติอยูบาง รอยละ 16.74 รูสึกวาไมตางกัน และรอยละ 18.45 รูสึกวาเขาไดรับความ
86
ชวยเหลือจากผูรวมงานอยูบาง
เมื่อผูติดเชื้อถูกเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ ไมวาจะเปนระดับใด ผลกระทบโดยตรงคือ ทําให
พวกเขาตองสูญเสียงานและแหลงรายไดหลัก โดยผูติดเชื้อจํานวนหนึ่ง (รอยละ 32.19)เคยสูญเสียงานและ
แหลงรายไดเนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวี โดยมีสาเหตุหลักเปนเพราะสถานะการเปนผูติดเชื้อ และการเลือก
ปฏิบัติของนายจางและผูรวมงาน และบางสวนยังรูสึกวาสถานะการติดเชื้อมีผลตอความกาวหนาในการทํางาน
ของพวกเขาดวย แมวาผูติดเชื้อจํานวนหนึ่งจะไมเปดเผยสถานะการติดเชื้อตอนายจาง แตก็เลือกที่จะลาออก
87
เมื่อรูสึกวาตนเองจะปวย เพราะไมตองการตอบคําถามของผูรวมงาน นอกจากนี้ การเลือกปฏิบัติในการ
ประกอบอาชีพ ยังสงผลใหมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนดานอื่นๆ ของผูติดเชื้อดวย โดยจากงานวิจัยของ
เครือขายผูติดเชื้อ แสดงใหเห็นวา กลุมตัวอยางรอยละ 47.21 เคยถูกละเมิดสิทธิในดานตางๆ รอยละ 14.0 ถูก
บังคับใหเขารับบริการทางการแพทย รวมทั้งตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี รอยละ 50 เคยถูกปฏิเสธการทําประกัน
สุขภาพหรือประกันชีวิต รอยละ 7.6 เคยถูกกักตัว กักเพื่อตรวจโรคถูกทอดทิ้งใหโดดเดี่ยว แบงแยกทั้งยังมีการ
ตรวจเลือดการไดรับบริการปรึกษาที่ไมรอบดานบีบบังคับการแจงผลเลือดการถูกกดดันใหบอกสถานะของการ
88
ติดเชื้อโดยยินยอมหรือไมยินยอม นอกจากนี้ นาสนใจวามีผูติดเชื้อจํานวนหนึ่งถูกเจาหนาที่บังคับใหทําหมัน
89
หรือสรางเงื่อนไขใหคุมกําเนิดเพื่อรักษาดวยยาตานไวรัส ซึ่งเมื่อเผชิญกรณีการเลือกปฏิบัติเหลานี้ แมกลุม
ตัวอยางรอยละ 72.10 เคยพยายามรองเรียนใหมีการแกไขปญหา และไดรับการแกไขในระดับหนึ่ง แตยังมี
84
เรื่องเดียวกัน, หนา 91-97.
85
เรื่องเดียวกัน, หนา 140.
86
เรื่องเดียวกัน, หนา 155-156.
87
การสนทนากลุมผูติดเชื้อเอชไอวี ครั้งที่ 2, 27 มกราคม 2556
88 คณะกรรมการเครือขายองคกรพัฒนาเอกชนดานเอดส, เรื่องเดียวกัน,หนา 15, 114 - 117.
89 เรื่องเดียวกัน, ตาราง 132-133, หนา 171.