Page 25 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 25
4
การตีตราในกลุมผูติดเชื้อเอชไอวีมีหลายแบบ เชน การปฏิเสธ การโดดเดี่ยว การกลาวโทษและทําให
อับอาย เมื่อผูติดเชื้อกลัวการถูกเลือกปฏิบัติก็มักจะทําใหพวกเขาไมกลาที่จะรักษาตัวเอง หรือแมแตจะเปดเผย
2
วาตนเองเปนผูติดเชื้อ ดังนั้น นอกจากการเลือกปฏิบัติจะเปนปญหาในตัวเองแลว ยังมีผลทําใหการปองกัน
และการจัดการการแพรระบาดของโรคยุงยากมากขึ้น ยิ่งไปกวานั้น การตีตรากลุมผูติดเชื้อยังขยายไปถึงคนรุน
ตอไปดวย ทําใหพวกเขาตองรับภาระทางจิตใจมากขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กที่ตองสูญเสียสมาชิกในครอบครัว
และยังตองเสียโอกาสอื่นๆ ทั้งในดานการศึกษา และความสัมพันธในสังคม
การยุติปญหาการตีตราและการเลือกปฏิบัติตอผูติดเชื้อเอชไอวี จึงเปนเรื่องสําคัญเทาๆ กับการพัฒนา
วัคซีน โดยการใหความรู มีความสําคัญอยางยิ่งในการขจัดปญหาดังกลาว ยุทธศาสตรในการแสดงใหเห็นถึง
ปญหาการตีตราเปนเรื่องสําคัญสําหรับการปองกันโรค และโปรแกรมการใหความรู และจะตองขยายไปใน
3
ชุมชนเพื่อใหมีประสิทธิภาพ
แนวคิดเรื่องการตีตรา และการเลือกปฏิบัติมีความเชื่อมโยงตอกัน โดยเฉพาะการตีตราผูติดเชื้อ
เอชไอวี เมื่อพวกเขาถูกตีตราจากสังคมหนึ่งๆ ก็ทําใหถูกเลือกปฏิบัติหรือถูกกีดกันจากสังคม และอาจถูกละเมิด
สิทธิมนุษยชนดวย โดยในหลายประเทศ มีการรายงานถึงกรณีที่ผูติดเชื้อถูกปฏิเสธสิทธิในการรักษาพยาบาล
4
การทํางาน การศึกษารวมถึงเสรีภาพในการเคลื่อนไหวดวย
การตีตราหมายถึง “ภาวะที่บุคคลหรือกลุมชนในสังคมหนึ่งกําหนดวาอะไรคือความแตกตางของ
บุคคลลักษณะของบุคคลที่พึงประสงคหรือไมพึงประสงคควรเปนอยางไรลักษณะใดที่มีความแตกตางไปจากที่
คนสวนใหญประสงคจะถือวามีความเบี่ยงเบนสงผลใหบุคคลสูญเสียชื่อเสียงไมนาไววางใจหรือเกิดความอับอาย
ตลอดจนทําใหบุคคลนั้นรูสึกวาคุณคาตัวตนลดลงในสายตาของสังคมบุคคลที่ไดรับตราบาปหรือถูกตีตราบาป
จะเกิดความรูสึกวา “ตนมีความแตกตางจากผูอื่นอยางที่ไมพึงประสงค” (Undesirable difference) ทั้งนี้
คุณลักษณะที่จะถูกตีตราบาปดังกลาวขึ้นอยูกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่คนจํานวนมากในสังคมนั้นๆ
มีอํานาจเปนผูกําหนดขึ้นซึ่งความหมายของตราบาปเนนไปที่มุมมองของสังคมที่อางอิงจากบรรทัดฐานทาง
สังคมหลอหลอมรวมกันเปนความรูสึกที่แยกแยะ “ความตาง” (difference) หรือ “ความเบี่ยงเบน”
(deviance) สงผลใหบุคคลเกิดการตอตานจากสังคมโดยผูที่ถูกตีตราบาปจะถูกมองจากคนในสังคมวาเปนผูที่มี
5
“ลักษณะเดนที่ทําใหเกิดการเสื่อมเสีย” (Spoiled Identity)
บุคคลมีแนวโนมที่จะถูกสังคมตีตรามีลักษณะ 3 ประการไดแก มีความผิดปกติทางกายภาพ เชน
รางกายพิการหรือดอยความสามารถ มีความเบี่ยงเบนทางดานวัฒนธรรมหรือกฎเกณฑมาตรฐานของสังคม
เชน คนที่มีความผิดปกติทางจิต คนติดยา หรือผูมีพฤติกรรมรักรวมเพศ และความแตกตางทางเผาพันธุ
เชื้อชาติ ชนชั้น ศาสนา เชน ชนกลุมนอย
2
R.Smart. HIV/AIDS-related Stigma and Discrimination. Module 1.4 [online] available at
http://www.iiep.unesco.org/fileadmin/user_upload/Cap_Dev_Training/pdf/1_4.pdf
3
R.Smart. Ibid.
4 UNAIDS.HIV/AIDS-related Stigma, Discrimination and Human Right Violation: Cases Studies of Successful
Programme, 2005 [online] available at http://data.unaids.org/publications/irc-pub06/jc999-
humrightsviol_en.pdf
5
Erving Goffman. Stigma : Note on the Management of Spoiled Identity. Harmondsworth: Penguins Book,
1963 อางถึงใน นิฮาฟซา หะยีวาเงาะ, ทัศนคติเกี่ยวกับโรคเอดสและการตีตราทางสังคม :กรณีศึกษาชุมชนมุสลิมในจังหวัด
ปตตานี, วิทยานิพนธปริญญามหาบัณฑิต สาขาพัฒนามนุษยและสังคม (สหสาขาวิชา) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ
มหาวิทยาลัย, 2555, หนา 18-19.