Page 67 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 67

56


                                  ผู้ต้องหาและสิทธิของผู้ต้องหา

                                  มาตรา 2 (2)   ผู้ต้องหา  หมายความถึง บุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระท าความผิด  แต่ยังมิได้

                      ถูกฟ้องต่อศาล
                                  บุคคลในที่นี้อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้   เช่น  กระทรวง   ทบวง  กรม

                      ห้างหุ้นส่วน  บริษัท  วัดวาอาราม  ตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                                  บุคคลจะตกเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อเมื่อถูกหาว่าได้กระท าความผิดอาญาโดย

                      ถูกบุคคลใดกล่าวหาต่อเจ้าพนักงานว่าได้กระท าความผิดอาญาขึ้น อันเนื่องจากค าร้องทุกข์ของ
                      ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา ตามมาตรา 2 (7)  หรือจากค ากล่าวโทษของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหาย

                      หรือถูกเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าได้กระท าความผิดเองได้ตาม  ป.วิ.อาญา  มาตรา 2 (8)

                                  อย่างไรก็ตาม การที่มีบุคคลใดมาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษว่ามีบุคคลใดเป็นผู้กระท า

                      ความผิดและตกเป็นผู้ต้องหานั้นก็มิใช่แต่เพียงว่ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วบุคคลนั้นจะตกเป็น
                      ผู้ต้องหาในทันที   ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ามีการแกล้งกล่าวหากันโดยที่ไม่เป็นความจริง  ดังนั้น

                      เจ้าพนักงานจึงมีหน้าที่จะต้องใช้วิจารณญาณด้วยความรอบคอบที่จะให้ความเป็นธรรมแก่บุคคล

                      ทุกฝ่าย  รวมทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วย  โดยอาจต้องพิจารณาถึงข้ออ้างจากพยานหลักฐานว่ามีเพียงใด

                      หรือไม่ด้วย  มิฉะนั้นบุคคลอาจถูกกระทบสิทธิได้โดยง่าย   และก็อาจกล่าวได้ว่ารัฐไม่อาจคุ้มครอง

                      สิทธิของบุคคลได้แต่อย่างใด
                                  ซึ่งหากเป็นกรณีที่น าเรื่องไปฟ้องต่อศาลเอง  ศาลก็ต้องท าการไต่สวนมูลฟ้องก่อน

                      เสมอ   ว่าคดีมีมูลหรือไม่เพียงใดด้วยจึงจะประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป  เพราะฉะนั้น ถึงอย่างใด

                      ก็ตามในชั้นเจ้าพนักงานก็ควรค านึงถึงหลักนิติธรรม   (Due Process of Law)  ในการที่จะให้ความ

                      เป็นธรรมแก่คู่ความทุกฝ่ายด้วย  มิฉะนั้นแล้วผู้ต้องหานั้นเพียงแต่ถูกกล่าวหาว่าได้กระท าความผิด
                      ในชั้นเจ้าพนักงานเท่านั้น ก็จะตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว  ด้วยเหตุนี้เองเจ้าพนักงานจึงอาจจะต้องท าการ

                      สืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นเสียก่อนว่ามีการกระท าความผิดเกิดขึ้นจริงหรือไม่

                                  สิทธิที่เจ้าพนักงานผู้จับต้องแจ้งให้แก่ผู้ถูกจับทราบและจัดด าเนินการตามบทบัญญัติ

                      ของกฎหมาย มีดังต่อไปนี้
                                  1.  ผู้ถูกจับได้รับทราบข้อกล่าวหา หรือหากมีหมายจับได้แสดงต่อผู้ถูกจับแล้ว (ป.วิ.

                      อาญา มาตรา 83 วรรคสอง)

                                  2.  ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ และถ้อยค าของผู้ถูกจับนั้น อาจใช้เป็น

                      พยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ (ป.วิ.อาญา มาตรา 83 วรรคสอง)
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72