Page 59 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 59

48


                      พลิกศพนั้นจะต้องสามารถท าหน้าที่ได้อย่างเป็นธรรม และเป็นอิสระจากบุคคลหรือหน่วยงานหรือ

                      องค์กรใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตายนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าการชันสูตรพลิกศพจะท าให้ได้

                      ข้อมูลตรงกับความเป็นจริง...” อาจท าให้เห็นได้ว่าหากเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
                      การตายเป็นเจ้าพนักงานอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ต ารวจ การให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักในการชันสูตร

                      พลิกศพและท าการสอบสวนดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก าหนดดังกล่าวก็อาจ

                      ไม่เป็นปัญหาเท่าใดนัก แต่หากเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายเป็นเจ้าหน้าที่

                      ต ารวจโดยตรง การให้พนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในสังกัดเดียวกันกับเจ้าพนักงานผู้มี

                      ส่วนเกี่ยวข้องกับการตายเป็นหลักในการชันสูตรพลิกศพและท าการสอบสวนนั้นอาจท าให้เกิด
                      ความไม่มั่นใจว่าจะสามารถท าหน้าที่ได้อย่างเป็นธรรมและเป็นอิสระ ดังนั้นในด้านหนึ่งจึงมีผู้เสนอ

                      ว่าควรมีการพัฒนาการชันสูตรพลิกศพโดยแพทย์นิติเวชหรือผู้ที่มีความรู้ด้านนิติเวชซึ่งผ่านการ

                      ฝึกอบรมให้สามารถปฏิบัติงานด้านนิติเวชโดยเฉพาะ โดยให้มีบทบาทหลักในการตรวจสอบการ

                      ตายดังกล่าวโดยเฉพาะในการชันสูตรพลิกศพนั้น และในอีกด้านหนึ่งหากเป็นกรณีที่เจ้าพนักงาน

                      ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายเป็นเจ้าหน้าที่ต ารวจ ก็ควรปรับปรุงระบบใหม่ให้เจ้าพนักงานในสังกัด
                      อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ต ารวจเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการชันสูตรพลิกศพและท าการสอบสวนโดยอาจ

                      น าแนวคิดเรื่อง coroner ของอังกฤษหรือการควบคุมการสอบสวนโดยเจ้าพนักงานอื่นในกระบวนการ

                      ยุติธรรมอย่างในระบบของเยอรมันดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ ก็จะเป็นการพัฒนาระบบให้มีหลักประกัน

                      ในเรื่องของความเป็นธรรมและความเป็นอิสระในการตรวจสอบมากขึ้นตามมาตรฐานขององค์การ
                      สหประชาชาติดังกล่าว


                                      2.3.3.6  มาตรการในการตุ้มครองสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
                                                การปล่อยชั่วคราวเป็นมาตรการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกระบวนการ

                      ยุติธรรมทางอาญาประการหนึ่งโดยการไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และควบคุมตัวบุคคลนั้นต่อไป

                      ต้องถือเป็นเพียงข้อยกเว้น  สืบเนื่องจากหลักการที่ว่าบุคคลทุกคนได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อน
                      ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าได้มีค าพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้นั้นได้กระท าความผิดนั้น  อย่างไรก็ตาม

                      อาจมีความจ าเป็นที่รัฐจะต้องควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหานั้นไว้ในระหว่างการด าเนินคดีอาญาเพื่อให้

                      เกิดความแน่นอนว่า 1) มีตัวผู้นั้นอยู่ระหว่างการด าเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย 2)ผู้นั้นจะไม่

                      ไปก่อภยันตรายอื่นโดยเฉพาะต่อพยานหลักฐาน เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกกล่าวหาท าผิดเงื่อนไขดังกล่าว

                      กฎหมายจึงก าหนดให้อาจต้องมีการประกันหรือมีหลักประกันด้วย ซึ่งมีการก าหนดหลักเกณฑ์
                      ในการปล่อยตัวชั่วคราวของต่างประเทศและในประเทศดังต่อไปนี้
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64