Page 54 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 54
43
ใด ๆ ก็ตามเกิดขึ้น เช่น ภาวะสงคราม เหตุชุลมุน หรือภาวะฉุกเฉินในสาธารณชน ก็ไม่ให้น ามาเป็น
ข้ออ้างส าหรับเพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการวิสามัญฆาตกรรมหรือการประหารชีวิตที่ไร้เหตุผล
และรวบรัดนั้นรอดพ้นจากการถูกฟ้องร้องด าเนินคดี...”
เป็นที่เห็นได้ชัดเจนว่า ตามมาตรฐานสากลที่องค์การสหประชาชาติ
ก าหนดดังกล่าว มีความมุ่งหมายเบื้องต้นให้มนุษยชาติได้อยู่ร่วมกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสันติวิธี
โดยเฉพาะรัฐและเจ้าพนักงานจะต้องเป็นแบบอย่างของการอยู่ในกรอบอย่างเคร่งครัดที่จะไม่ใช้วิธี
สังหารชีวิตของประชาชนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างเกิดเหตุจลาจลวุ่นวายใด ๆ
ก็ตาม การด าเนินการกับผู้ต้องสงสัยหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระท าผิดอาญาไม่ว่าจะเป็นความผิด
ร้ายแรงเพียงใดก็จะต้องด าเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายอัน
เป็นครรลองของหลักนิติธรรม หากปล่อยให้เจ้าพนักงานสามารถลงมือประหารชีวิตผู้ต้องสงสัยหรือ
ผู้ต้องหาได้เองโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม สังคมก็จะไม่แตกต่างอะไร
กับดินแดนแห่งความป่าเถื่อนและท าลายอารยธรรมของสังคมนั้นเอง
2) การตรวจสอบกรณีมีการตายซึ่งเกิดขึ้นโดยการกระท าของเจ้า
พนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่นั้น มีหลักเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติในส่วนที่
เกี่ยวข้องก าหนดไว้ได้แก่
ตามหลักการขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและ
สอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรม และการลงโทษประหารชีวิตที่ไร้เหตุผล
และรวบรัด (Principles on the Effective Prevention and Investigation of Extra-Legal, Arbitrary
and Summary Executions 1989) ข้อ 4, 8, 9, 12, 13, 14, 19 มีสาระส าคัญสรุปได้ดังนี้
“ศาลและองค์กรอื่นจะต้องเป็นหลักประกันที่มีประสิทธิภาพ
ในการคุ้มครองบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตลอดจนผู้ที่ถูกคุกคามต่อชีวิตนั้นให้ปลอดภัยจากการกระท า
วิสามัญฆาตกรรม หรือประหารชีวิตที่ไร้เหตุผลและรวบรัดหรือการคุกคามดังกล่าว.....
รัฐบาลจะต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทางที่จะป้องกันการ
วิสามัญฆาตกรรม หรือการประหารชีวิตบุคคลอื่นที่ไร้เหตุผลและรวบรัดดังกล่าว โดยมาตรการ
ต่าง ๆ เช่น การเข้าขัดขวางโดยสันติวิธี การพัฒนาระบบการร้องทุกข์ต่อองค์กรศาล หรือองค์กร
ต่าง ๆ ของภาครัฐ และการประณามการกระท าที่มิชอบดังกล่าว โดยประกาศต่อสาธารณชน
นอกจากนี้องค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐพึงเป็นกลไกในการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระท า
ที่มิชอบดังกล่าว และด าเนินการต่อต้านการปฏิบัติที่มิชอบนั้น รัฐบาลของประเทศที่ถูกตั้งข้อสงสัย