Page 33 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 33

๒๔
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”




                         แต่ในความเป็นจริงนั้น แม้ประเทศไทยมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามหลักการห้ามผลักดันกลับ แต่

                  ประเทศไทยยังมีการฝ่ าฝืนหลักการดังกล่าว อาทิ  กรณีผู้ลี้ภัยการสู้รบระหว่างกระเหรี่ยงพุทธ และ

                                                                                        ๓
                  กะเหรี่ยงคริสต์ ปรากฏอยู่ใน ข้อเสนอแนะในการด าเนินการและแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัย


                  ๒.๔  กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย


                         ประเทศไทยเป็นประเทศที่รองรับผู้ลี้ภัยจ านวนมากในช่วงปี ๒๕๑๘ เมื่อผู้ลี้ภัยจ านวนหลายแสน

                  คนจากกัมพูชา ลาว และเวียดนามหลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทย เหตุการณ์นั้นถูกเรียกกันว่า วิกฤติ

                  ผู้ลี้ภัยชาวอินโดจีน ผู้ลี้ภัยจ านวนมากกว่า ๑,๓๐๐,๐๐๐  คนได้รับการช่วยเหลือจากประเทศไทยมาเป็น


                  ระยะเวลาหลายปี ปัจจุบันนี้มีผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่ได้รับการลงทะเบียนแล้วราว ๙๕,๐๐๐ คนและผู้ขอ

                  ลี้ภัยอีกราว ๙,๐๐๐ คน  ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยจากพม่า ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่า

                  กะเหรี่ยงแดง ซึ่งพักอาศัยอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวจ านวนเก้าแห่งในสี่จังหวัดชายแดนไทย-พม่า รัฐบาล

                  ไทยเป็นผู้ด าเนินการในค่ายทุกแห่ง โดยได้รับความช่วยเหลือเกือบทั้งหมดจากองค์กรพัฒนาเอกชน

                  (NGOs)   ผู้ลี้ภัยจ านวนมากกว่า ๕๕,๐๐๐  คนจากพม่า (และจ านวนอีกเล็กน้อยจากประเทศอื่น ๆ) ได้


                  เดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อเข้าไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศอื่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และ

                  ออสเตรเลียได้รับรองที่จะรองรับผู้ลี้ภัยจ านวนมากจากประเทศไทย


                         อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาตามสิทธิต่าง ๆ ตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ๑๙๕๑ แล้ว

                  ประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัย ซึ่งสามารถ


                  จ าแนกได้ตามสิทธิในอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ ดังนี้


                         ๒.๔.๑ สิทธิในการไม่ถูกขับไล่, สิทธิในการไม่ถูกผลักดันกลับ (non refoulement)


                         กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อสิทธิในการไม่ถูกขับไล่  และสิทธิในการไม่ถูกผลักดันกลับ คือ

                  พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มี ๒ มาตราที่เกี่ยวข้อง คือ



                         มาตรา ๒๒   “ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจ พบว่าคนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้า

                  มาในราชอาณาจักรตามมาตรา  ๑๒ เข้ามาในราชอาณาจักร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ านาจสั่งให้คน

                  ต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรได้ โดยมีค าสั่งเป็นหนังสือ…”



                  ๓  http://www.statelessperson.com/www/?q=node/๗๗๔๖
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38