Page 25 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 25

๑๖
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”




                         ๓)   หน้าที่ของผู้ลี้ภัย


                         นอกจากอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ จะก าหนดให้รัฐคุ้มครองสิทธิของผู้ลี้ภัย

                  แล้ว ผู้ลี้ภัยก็มีหน้าที่ต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายภายในของรัฐที่ตนเข้าไปลี้ภัย และจะต้องไม่

                  กระท าการใดที่อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนใน

                  รัฐที่ลี้ภัย ตามอนุสัญญาฯ นี้ หน้าที่ของผู้ลี้ภัย ปรากฏอยู่ในมาตรา ๒  “ ผู้ลี้ภัยทุกคนมีหน้าที่ต่อรัฐที่ตน


                  เข้ามาอยู่ในอาณาเขต ซึ่งหน้าที่หมายถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับ และ

                  มาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ”


                         ๔)  วิธีการเข้าเป็นภาคี


                         อนุสัญญาฯได้ก าหนดวิธีการเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาไว้ในมาตรา ๓๙ เรื่องการลงนาม การให้


                  สัตยาบัน และการภาคยานุวัติ ดังนี้


                         ๔.๑  อนุสัญญานี้เปิดให้ลงนาม ณ นครเจนีวาในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ค.ศ.๑๙๕๑ และหลังจาก

                  นั้นจะเก็บรักษาไว้กับเลขาธิการสหประชาชาติ



                         อนุสัญญาเปิดให้ลงนาม ณ ส านักงานสหประชาชาติในยุโรปตั้งแต่วันที่ ๒๘  กรกฎาคม ถึง ๓๑

                  สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๕๑  และเปิดให้ลงนามได้อีกครั้ง ณ ส านักงานใหญ่ของสหประชาชาติตั้งแต่วันที่ ๑๗

                  กันยายน ค.ศ. ๑๙๕๑ ถึง ๓๑ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๕๒



                         ๔.๒  อนุสัญญานี้จะเปิดให้ลงชื่อได้ในนามของรัฐสมาชิกองค์การสหประชาชาติทั้งหลายและใน

                  นามของรัฐอื่น ๆ ที่ได้รับค าเชิญให้ร่วมในการประชุมผู้มีอ านาจเต็มเรื่อง สถานภาพของผู้ลี้ภัย และบุคคล

                  ผู้ไร้สัญชาติ หรือต่อผู้เป็นฝ่ายซึ่งสมัชชาใหญ่จะมีค าเชิญขอให้ลงนามอนุสัญญานี้จะต้องได้รับสัตยาบัน

                  และสัตยาบันสารจะต้องเก็บรักษาไว้ที่เลขาธิการสหประชาชาติ



                         ๔.๓  อนุสัญญานี้จะเปิดเพื่อการภาคยานุวัติตั้งแต่วันที่ ๒๘  กรกฎาคม ค.ศ. ๑๙๕๑  โดยรัฐซึ่ง

                  อ้างถึงในวรรค ๒  ของมาตรานี้ การภาคยานุวัติจะมีผลเมื่อมีการส่งมอบภาคยานุวัติสารไว้กับเลขาธิการ

                  สหประชาชาติ”
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30