Page 19 - รายงานโครงการศึกษาวิจัย การต่อสู้ภาคประชาสังคมเพื่อยุติการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน : กรณีศึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
P. 19

๑๘

                   แต่พบว่ามีเรื่องปัจจัยที่ผลักให้คนงานต้องตกเข้าไปสู่ระบบโครงสร้างชนชั้นในที่ทํางานและใน
                   ตลาดแรงงานด้วย และสิ่งนี้ทําให้คนงานเหล่านี้ถูกเลือกปฏิบัติในที่ทํางาน หมายความว่าการเลือก
                   ปฏิบัติเกี่ยวกับการทํางานไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตอนจะสมัครเข้าทํางาน แต่เกิดขึ้นได้ตลอดแม้กระทั่งเมื่อ
                   ได้งานแล้ว คาร์บาโดบอกว่าการถูกเลือกปฏิบัติในที่ทํางานหลังจากที่ได้เข้ามาทํางานแล้วที่น่าสนใจ
                   ศึกษามากที่สุดคือเรื่องการถูกคุกคามทางเพศและการเหยียดสีผิว แต่ก็มีเรื่องความหลากหลายอย่าง
                   อื่นในที่ทํางานที่มีผลต่อการเลือกปฏิบัติด้วย  (DiTomaso  2007)  เช่น คนทํางานที่มีลักษณะเฉพาะ
                   บางอย่างที่ต่างกัน ความต่างของคนทํางานอาจเป็นเรื่องที่ดีที่ทําให้คนในหน่วยงานสร้างความสัมพันธ์
                   ที่ดีต่อกันได้  แต่ความต่างของคนก็อาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติได้เช่นกัน ไดโทมาโซให้ความเห็นว่า
                   ความไม่เหมือนกันจะทําให้คนทํางานเข้าใจแก่นแท้ว่าคนย่อมไม่เหมือนกัน และความไม่เหมือนกันคือ
                   ความหลากหลาย แต่ต้องสามารถช่วยคนทํางานเชื่อมโยงความหลากหลายในที่ทํางานให้ได้ การเลือก
                   ปฏิบัติจึงจะลดได้
                          แล้วถ้าเป็นความหลากหลายของพฤติกรรมประเภทหมาหยอกไก่ เจ้าชู้ประตูดิน และการขาย
                   ขนมจีบเล่า นักวิชาการ องค์กร หน่วยงานยิ่งต้องให้ความสําคัญกับพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ เพราะ
                   พฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ทํากันเป็นประจําในทุกองค์กรทุกหน่วยงาน พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้
                   นําไปสู่การคุกคามทางเพศทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้นําไปสู่การเป็นแฟนกันจริงทั้งหมดเช่นกัน นอกจากนี้
                   พฤติกรรมเหล่านี้ยังเป็นคําถามเชิงจริยธรรมได้เหมือนกันว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็นการแสดงออกทางเพศ
                   ที่เหมาะสมหรือไม่ นักวิชาการชื่อวิลเลียม  (Williams  et  al1999)  ได้ศึกษาและระบุชัดเจนว่า  การ
                   กระทําต่อผู้อื่น เช่น การหอมแก้ม การจับก้น การจับหน้าอก แล้วผู้อื่นนั้นไม่ได้ว่าอะไร ก็ย่อมไม่เป็นไร
                   แต่หากทําไปแล้วผู้อื่นนั้นไม่ยินยอม  การกระทํานั้นก็เป็นการคุกคามทางเพศอย่างแน่นอน  วิลเลียม
                   แนะนําต่อด้วยว่าควรมีการศึกษาเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ในที่ทํางานให้มากขึ้น เพราะเราจะได้
                   เข้าใจมากขึ้นว่าคนเลือกคบกันในที่ทํางานอย่างไร แบบไหนที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย แบบไหนเข้าข่ายทํา
                   ให้อีกฝ่ายหนึ่งลําบากใจ แบบไหนเป็นการคุกคามทางเพศในที่ทํางาน นโยบายองค์กรและวัฒนธรรม
                   องค์กรในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างไร วิลเลียมเชื่อว่าพฤติกรรมทางเพศของคนขึ้นอยู่กับบริบทของ
                   ความสัมพันธ์นั้น ดังนั้นการมองว่าพฤติกรรมใดๆเป็นการคุกคามทางเพศในที่ทํางานหรือไม่ จึงควร
                   ต้องมองบริบทของความสัมพันธ์ด้วย
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24