Page 18 - รายงานโครงการศึกษาวิจัย การต่อสู้ภาคประชาสังคมเพื่อยุติการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน : กรณีศึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
P. 18

๑๗

                   รูปแบบ จํานวนผู้ถูกคุมคามทางเพศแยกตามลักษณะประชากร จํานวนผู้ถูกคุมคามทางเพศที่ได้รับ
                   การเยียวยาหลังเกิดเหตุ เป็นต้น
                          ณ ปัจจุบัน ความรู้ในประเด็นเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศได้พัฒนาจากตัวเลขสถิติไปสู่การ
                   วิเคราะห์เชิงทฤษฎีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทฤษฎีเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดการคุกคามทางเพศ
                   บ้าง หรือเกี่ยวกับผลกระทบของการคุกคามทางเพศบ้าง แต่องค์ความรู้ ณ ปัจจุบันก็ยังคงขาดการคิด
                   เชิงโครงสร้างเกี่ยวกับการแสวงหาความรู้ใหม่ในประเด็นเรื่องการคุกคามทางเพศอยู่พอสมควร เพราะ
                   งานวิจัยเพื่อแสวงหาความรู้ใหม่เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศมักไม่ได้คํานึงถึงว่าการคุกคามทางเพศใน
                   ที่ทํางานเป็นรูปแบบหนึ่งของการคุกคามทางเพศ อันเป็นเหตุให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการคุกคามทาง
                   เพศในที่ทํางานมีน้อยมาก นอกจากนี้ เทคนิคการเก็บข้อมูลการคุกคามทางเพศในที่ทํางานทั้งใน
                   งานวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพยังไม่สามารถช่วยนักวิจัยค้นหาความรู้ใหม่ได้เท่าใดนัก งานวิจัย
                   ทางสังคมศาสตร์จึงทําได้แต่เพียงบันทึกกระบวนการต่อสู้เพื่อยุติความรุนแรงและรวมถึงการยุติการ
                   คุกคามทางเพศในที่ทํางานเท่านั้น  (Bumiller  2010)  โดยบูมิลเลอร์อธิบายว่าการบันทึกดังกล่าวเป็น
                   การบันทึกที่ได้แต่ “ตาม” การต่อสู้เพื่อยุติการคุกคามทางเพศในที่ทํางานที่ถูกกําหนดไว้แล้วโดยกลุ่ม
                   คนที่ต่อสู้ เป็นการบันทึกตามนํ้าโดยไม่วิพากษ์ “วิธีการ” ที่ใช้ต่อสู้เลยทั้งๆที่นักวิชาการที่ถนัดแนวสตรี
                   นิยมควรจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการกําหนดหลักการสําคัญในการแสวงหาความรู้ใหม่ในประเด็นเกี่ยวกับ
                   การคุกคามทางเพศในที่ทํางานเป็นอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่นไม่เคยมีนักวิชาการที่ถนัดแนวสตรีนิยมโต้แย้ง
                   ว่าการสร้างความรู้ใหม่ในประเด็นเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศในที่ทํางานนั้นจะต้องเริ่มจากการที่
                   นักวิจัยผู้นั้นต้องสามารถใช้แนวคิดเรื่องโครงสร้างอํานาจทางเพศและความสัมพันธ์ชายหญิงมาทํา
                   ความเข้าใจปัญหาก่อน แล้วจึงศึกษาเพิ่มเติมจนเข้าใจถ่องแท้มากขึ้นจนสามารถสร้างความรู้ใหม่ได้
                   หรืออาจใช้แนวคิดอื่นเข้ามาช่วยในการมองประเด็นการคุกคามทางเพศในที่ทํางาน เช่น แนวคิดการ
                   ควบคุมพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิง แนวคิดตามกรอบประเพณีที่เอื้อต่อการคุกคามทางเพศ และ
                   ความไม่เสมอภาคทางเพศ เป็นต้น
                          ว่าด้วยเรื่องการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการทํางาน คาร์บาโดและคณะ  (Carbado  et  al
                   2008)  ตั้งคําถามชวนคิดว่าในทศวรรษหน้าผู้คนจะสนใจใคร่รู้เรื่องการเลือกปฏิบัติแบบไหนมากที่สุด
                   คาร์บาโดชวนคิดเพราะเขาคิดว่าทั้งแนวคิดในเรื่องการเลือกปฏิบัติ และทั้งข้อมูลที่พบในสถานการณ์
                   จริง ล้วนไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัจจัยที่ทําให้ผู้หญิงสมัครงานประเภทใดไม่ได้ คนประเภทใดตกงาน
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23