Page 41 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 41
นี้จะกระทำามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้น ตาม
วรรคสอง....”
พิจารณาจากบทบัญญัติดังกล่าวแล้วเห็นว่า การแสดงความคิดเห็น
และการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ เป็นเสรีภาพของบุคคลที่ได้รับการคุ้มครอง และได้รับการป้องกัน
การแทรกแซงจากอำานาจรัฐ การจำากัดเสรีภาพในการสื่อสารดังกล่าวจะทำาได้ก็ต่อเมื่อเป็นไป
ตามเงื่อนไขของบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๕
วรรคสอง แต่รัฐไม่สามารถสั่งปิดกิจการของสื่อได้โดยไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีโดยความ
เห็นชอบของคณะรัฐมนตรี อาศัยอำานาจตามพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์
ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง รวมทั้งออกประกาศและ
ข้อกำาหนดของรัฐบาล เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓ รัฐบาลได้มีมาตรการที่มีผลทำาให้สถานี
โทรทัศน์พีทีวีไม่สามารถเผยแพร่สัญญาณภาพและเสียงได้ และทำาให้ประชาชนที่ติดตาม
การถ่ายทอดภาพและเสียงของสถานีโทรทัศน์พีทีวีไม่สามารถรับทราบและเข้าถึงข้อมูลของ
สถานีดังกล่าวได้ตามปกติ กรณีจึงถือได้ว่า มาตรการดังกล่าวของรัฐมีผลเป็นการจำากัดเสรีภาพ
ในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน
ประเด็นจึงต้องพิจารณาต่อไปว่า มาตรการของรัฐในการระงับการ
เผยแพร่สัญญาณภาพและเสียงของสถานีโทรทัศน์พีทีวีที่มีผลเป็นการจำากัดเสรีภาพในการแสดง
ความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชนนั้น รัฐบาลได้ดำาเนินการไปด้วยความจำาเป็นและ
เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่
พิจารณาจากอำานาจหน้าที่ตามพระราชกำาหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๑๑ ประกอบกับประกาศที่ออกโดยอาศัยอำานาจ
ตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำาหนดดังกล่าวและคำาสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ ๒/๒๕๕๓ เรื่อง
แต่งตั้งผู้กำากับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์
ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ข้อ ๒ ข้อ ๓ และข้อ ๔ แล้วเห็นว่า กฎหมายให้อำานาจหัวหน้าผู้รับผิด
ชอบ (ผอ.ศอฉ.) ในการสั่งห้ามกระทำาการใดๆ หรือสั่งให้กระทำาการใดๆ เท่าที่จำาเป็นแก่การรักษา
ความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ หรือความปลอดภัยของประชาชนและมีอำานาจ
ในการบังคับบัญชาและสั่งการส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำาหนดเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของ
ประเทศหรือความปลอดภัยของประชาชน
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏตามหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอเผยแพร่ภาพและ
เสียงของสถานีโทรทัศน์พีทีวีจากเวทีปราศรัยของแกนนำากลุ่ม นปช. ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประกาศ
สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓ โดยที่ปรากฏถ้อยคำาจาก
39
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓