Page 114 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 114
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
88 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
เหล่านี้เกิดจากการรั่วซึมออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมกระจายอยู่ในบรรยากาศ ในดิน ในน้ำาใต้ดิน
และมีค่าความเข้มข้นเกินค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี อีกทั้งผลจากการติดตามตรวจสอบปริมาณสาร
อินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (VOCs) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตามรายงานของ
กรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ พบว่า สถานการณ์ ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔
ยังคงมีสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่มีค่าความเข้มข้นเกินค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี ๒๐
๒) การกำาหนดภารกิจของรัฐและส่วนราชการต้องสอดคล้องกับแนวนโยบาย
พื้นฐานแห่งรัฐและนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา แต่เมื่อพิจารณาการดำาเนินการของ
รัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งมีความพยายาม
ที่จะตอบสนองต่อภาคเอกชนผู้ประกอบอุตสาหกรรม โดยให้มีการขยายพื้นที่อุตสาหกรรมและ
ยอมรับรายงานผลการศึกษาที่สรุปว่า พื้นที่มาบตาพุดยังมีศักยภาพในการรองรับอุตสาหกรรม ทั้งที่
ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนอย่างรุนแรง จึงไม่สอดคล้องกับแนวนโยบาย
พื้นฐานแห่งรัฐในการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน การสร้างเสริมสุขภาวะที่
ยั่งยืนของประชาชน การใช้ที่ดินที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น และการบริหารจัดการน้ำา
และทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๗๘ มาตรา ๘๐ (๒) และมาตรา ๘๕
๓) การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการต้องเป็นไปโดยซื่อสัตย์สุจริต สามารถ
ตรวจสอบได้และมุ่งให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่น แต่การที่
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้กำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจก่อ
ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ
จำานวน ๑๑ รายการ ทำาให้โครงการหรือกิจการหลายประเภทไม่เข้าข่ายต้องดำาเนินการตามมาตรา
๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งมีข้อสังเกตว่า อาจมี
ผลในทางที่เป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในกรณีที่ถูกฟ้องจากผู้ได้รับความ
เดือดร้อนจากการประกอบการของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด เกี่ยวกับการดำาเนิน
โครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง โดยไม่ปฏิบัติ ตามมาตรา ๖๗
วรรคสอง
๒๐
กรมควบคุมมลพิษ, “สรุปสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี ๒๕๕๓”, ข่าวสารสิ่งแวดล้อม กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๔๐/๒๕๕๓ วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓, ใน http://www.pcd.
go.th. และกรมควบคุมมลพิษ, ผลจากการติดตามตรวจสอบปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่าย ในบรรยากาศ
(VOCs) แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (VOCs) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
มาบตาพุด, รายงาน ณ วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๔,ใน http://www.pcd.go.th.

