Page 44 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 44

วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา   43



                     ถือเป็น “พื้นที่อื่น” ในโลกทุนนิยม แบบแผนการดําเนินชีวิตของชาวนาครเขษมแตกต่างไปจากคนหนุ่มสาววัย
                     ทํางาน เนื่องจากชาวนาครเขษมไม่ได้อยู่ในกรอบของเวลาแบบทุนนิยม ชีวิตของชาวนาครเขษมดําเนินไปช้าๆ

                     ไม่เร่งรีบ วิถีชีวิตของชาวนาครเขษมยังแตกต่างจากคนวัยหนุ่มสาว เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่มีกําลังผลิตและกําลัง
                     บริโภค ชาวนาครเขษมจึงคล้ายคลึงกับกลุ่มเควียร์ที่มีวิถีชีวิตอยู่นอกกรอบเวลาของสังคมทุนนิยมที่ยึดถือรัก
                     ต่างเพศ กลุ่มเกย์และเลสเบียนดํารงอยู่ในกระแสเวลาต่างไปจากสังคมกระแสหลัก ซึ่ง Halberstam (2005)

                     เรียกว่าเวลาในแบบเควียร์ (Queer  Temporality) สภาวะที่เป็นของเก่า หมดอายุ ใช้การไม่ได้ ยังส่งผลให้
                     ชาวนาครเขษมกลายเป็นคน “ไร้เพศ” หมดความเป็นหญิงและชาย เนื่องจากร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มี

                     ความสามารถในการผลิตและสืบพันธุ์เป็นปัจจัยสําคัญในการกําหนดความเป็นหญิงและความเป็นชายในระบบ
                     ทุนนิยม ด้วยเหตุนี้ชาวนาครเขษมจึงใกล้เคียงกับความเป็นเควียร์ในสังคมที่ยึดถือแบบแผนรักต่างเพศ “ความ

                     แปลกประหลาด” หรือ “ความผิดเพี้ยน” ของกลุ่มเกย์และเลสเบียนเป็นผลมาจากการที่คนกลุ่มนี้ไม่สามารถ
                     จัดเข้ากรอบ “ความเป็นชาย” หรือ “ความเป็นหญิง” ได้


                            ความเป็นเควียร์ ไม่เพียงเชื่อมโยงชาวนาครเขษมกับกลุ่มเควียร์อื่นๆ เช่น กลุ่มเกย์เลสเบียน กลุ่มผู้
                     พิการ กลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์ เท่านั้น ชุมชนเควียร์ในนาครเขษมยังเชื่อมโยงกับเควียร์กลุ่มอื่นในความหมายที่ว่า
                     ชาวนาครเขษมนิยามตนเองในความหมายที่ต่างจากสังคมให้ไว้ “เควียร์” (queer) เป็นคําที่สังคมรักต่างเพศ

                     เรียกกลุ่มเกย์และเลสเบียนที่มีเพศวิถีต่างจากบรรทัดฐาน (norm) ของสังคม “เควียร์” จึงมีความหมายในทาง
                     ลบและสื่อถึงความ “แปลก” “เบี่ยงเบน” ไปจากแบบแผนรักต่างเพศที่สังคมถือว่าเป็น “ปกติ” หรือ

                     “ธรรมชาติ” “เควียร์” ยังเป็นคําที่กลุ่มเกย์เลสเบียนใช้เรียกตนเอง การรับเอาคําว่า “เควียร์” มานิยาม
                     ตนเองสําหรับกลุ่มเควียร์แสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้ปฏิเสธความสัมพันธ์แบบรักเพศเดียวกันที่สังคมมอง

                     ว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอาย การยอมรับความเป็นเควียร์ของตนอย่างเปิดเผยและภาคภูมิใจเป็นท่าทีของกลุ่มเค
                     วียร์ที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธขนบ (norm) รวมถึงคํานิยามของสังคมที่มองกลุ่มเควียร์ว่า “ผิดปกติ” หรือ
                     “เบี่ยงเบน” ดังที่ Warner (2003: 59) กล่าวว่า “One of the reasons why so many people have

                     started using the word ‘queer’ is that it is a way of saying: ‘We’re not pathological, but don’t
                     think for that reason that we want to be normal” เช่นเดียวกับกลุ่มเควียร์ ชาวนาครเขษมถูกสังคม

                     นิยามว่าเป็น “ของเก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว” หรือ “used  people” อคติของสังคมที่มีต่อคนสูงวัยทําให้
                     ตัวละครเหล่านี้พยายามหลีกหนีความสูงอายุและทําทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ต้องมายังนาครเขษม อย่างไรก็ตาม

                     การเข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้เปิดโอกาสให้ตัวละครตั้งคําถามกับแนวคิดเวลาที่เป็นเส้นตรงและค้นพบ
                     ความหมายใหม่ของความสูงวัยที่ต่างจากคํานิยามที่สังคมให้ไว้  ทัศนคติที่ดีต่อวัยสูงอายุช่วยให้ตัวละคร

                     สามารถหันมายอมรับความสูงวัยและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนแห่งใหม่ที่เรียกว่านาครเขษมในที่สุด
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49