Page 41 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 41

40       แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน



                ไม่ใช่สําหรับคนแก่อย่างชาวนาครเขษม ดังเห็นจากปฏิกิริยาของชาวนาครเขษมต่อชิงช้าสวรรค์ในตอนแรก
                “ของของเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” “มันน่าจะอยู่กับเด็ก ไม่น่ามาอยู่กับคนแก่” (คอยนุช, 2549:  91) “จะขึ้นไป

                นั่งกันไหม” “มีแต่เด็กเท่านั้นที่นั่งชิงช้าสวรรค์” “คนแก่ไม่เล่นของเล่นแบบเด็กหรอก” (คอยนุช, 2549: 92)
                “คําพูดนี้ทําให้ชาวนาครเขษมที่อายุ 40 ไปแล้วทุกคนพากันยืนนิ่งอย่างเงียบๆ ไม่กล้าขยับเท้าเข้าไปใกล้ชิงช้า
                สวรรค์ ได้แต่ยืนแหงนหน้ามองวงกลมเหล็กขนาดใหญ่หมุนเคลื่อนขึ้นไปบนท้องฟ้า” (คอยนุช, 2549:  92)

                ชิงช้าสวรรค์เป็นสัญลักษณ์ของอนาคตเนื่องจากสิ่งนี้ได้นําพาทุกคนไปยังท้องฟ้า การที่คนเหล่านี้มองว่าชิงช้า
                สวรรค์ไม่เหมาะสําหรับคนแก่สะท้อนให้แนวคิดและค่านิยมของสังคมที่มองความสูงวัยว่าหมายถึงความเสื่อม

                โทรม ความสูญเสีย ผู้สูงวัยจึงไม่เหมาะที่จะนั่งฝันหรือจินตนาการเกี่ยวกับอนาคตอีกต่อไป ทัศนะดังกล่าวทํา
                ให้เรามองความสูงวัยในแง่ลบ ความสูงวัยเป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากพบเจอเพราะเป็นสิ่งที่น่าอับอายหรือน่า

                รังเกียจ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนในสังคมปัจจุบันพยายาม ปกปิดอายุ มองข้ามอายุ มากกว่าการหัน
                กลับมายอมรับความสูงวัยและค้นหาความหมายของความสูงวัยที่ต่างจากสังคมกําหนด


                       สังคมเรียกร้องให้บุคคลประพฤติตนให้เหมาะสมตามวัยที่สังคมกําหนด (normalization of age)
                Russo (1999)  มองว่าการปฏิบัติตามกรอบเวลาที่สังคมกําหนดลงเอยที่ความเสื่อมถอยและความตาย และ
                เรียกร้องให้บุคคลยอมเสี่ยงที่จะละเมิดขนบเกี่ยวกับอายุ “Risk, in my view, is not solely a bad thing

                to be avoided…, but also a condition of possibility, a kind of error in calculating normality.
                Ultimately, it is a sign of life” (Russo, 1999: 27) การไม่ทําตัวตามวัยที่เหมาะสมเท่ากับเป็นการปฏิเสธ

                แนวคิดของสังคมว่าความสูงวัยหมายถึงความเสื่อมถอยและความตายภายใต้กรอบเวลาที่เดินอย่างต่อเนื่อง
                เป็นเส้นตรงและช่วยยืนยันว่าผู้สูงวัยซึ่งสังคมหลงลืมยังคงมีชีวิตอยู่ (“still  alive”)  สําหรับชาวนาครเขษม

                การแก่ไปตามวัยที่สังคมนิยามไว้หมายถึงการกลายเป็นของเก่าที่ใช้การไม่ได้ การกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งของ
                ชาวนาครเขษม แม้จะเป็นการเสี่ยงที่จะถูกสังคมติฉินนินทา (ชิงช้าสวรรค์เป็นของเด็กไม่ใช่ของผู้ใหญ่) แต่เปิด
                โอกาสให้ตัวละครนิยามความหมายใหม่ให้กับความสูงวัย การเข้าสู่ความสูงวัยหมายถึงการกลับไปเป็นเด็ก แต่

                ต่างจากเด็กตรงที่ผู้สูงวัยสามารถกําหนดชีวิตของตนเองได้ เปิดโอกาสให้คิดใหม่ ทําใหม่ และมองสิ่งต่างๆ
                ใหม่ เรื่องราวของวิชัยและนภาที่ไม่ได้ลงเอยที่ความรู้สึกโดดเดี่ยว สิ้นหวัง ไร้อนาคต เรื่องราวของทั้งคู่ลงเอย

                ด้วยการเริ่มต้นความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสาน ความโรแมนติกกับวัยชรา ความเยาว์วัยกับความ
                สูงอายุ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมไม่คาดคิดว่าจะอยู่ร่วมกันได้/  มองว่าไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมกันได้ (scandal  of

                anachronism)

                       ใครจะเชื่อว่าชิงช้าสวรรค์ทําให้วัยเด็กกลับคืนมาได้ เรื่องในการ์ตูนกับนิทานก็กลายเป็นเรื่องจริง
                       ผู้ชายกลายเป็นตัวอักษร ฟ ที่หายไป ผู้หญิงที่ไม่เคยพูดกลับพูดยาวๆ ไม่หยุด ยางลบก้อนเดียวทํา
                       ให้คนรักกันได้ และตอนจบผู้ชายกับผู้หญิงก็กอดกันเหมือนในหนังในทีวี อายุ 40  ไม่ใช่อายุของ

                       คนแก่ แต่เป็นอายุของเด็กแทน ท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้าชั่วนิรันดร (คอยนุช, 2549: 98)
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46