Page 14 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 14

วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา   13



                            1. วิถีวัฒนธรรมชุมชนกับสิทธิทางวัฒธรรมของปัจเจก
                            ข้อถกเถียงในหัวข้อนี้มีประเด็น คือ

                             (1)  การพิจารณาเรื่องสิทธิทางวัฒนธรรม มักหนีไม่พ้นการพิจารณาเรื่องวิถีวัฒนธรรมในระดับชุมชน
                     หรือกลุ่มคน มากกว่าระดับปัจเจก ข้อดีของวิถีวัฒนธรรมชุมชน คือ การที่สังคมมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่เคย
                     ยึดถือร่วมกันมา โดยที่ประเพณีนั้นทําหน้าที่เป็นกลไกทางสังคมที่สร้างสํานึกร่วมของการเป็นสมาชิกในชุมชน

                     และบางครั้งทําหน้าที่แก้ไขหรือเยียวยาปัญหาความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ เช่น นักมานุษยวิทยาที่ศึกษาสังคมชน
                     เผ่าในอัฟริกา ได้ชี้ให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของพิธีกรรมในการเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่อยู่ใต้อํานาจและถูกกดทับ ได้มี

                     โอกาสแสดงออก ในสังคมชนเผ่าซูลู ที่ผู้ชายมีอํานาจมาก และผู้หญิงถูกกดขี่ไม่มีโอกาสแสดงออก  การแสดง
                     ละครประจําปีตามประเพณีของชนเผ่า เปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถด่าว่า และใช้คําหยาบแสดงความโกรธ

                     เกลียดเคียดแค้นผู้ชายได้ แต่การแสดงออกเพื่อลดความกดดันนี้ สามารถแสดงได้เฉพาะบนเวทีการแสดง
                     เท่านั้น หลังจากนั้นก็จะต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติที่ถูกกดขี่ข่มเหงต่อไป กรณีนี้กลไกทางวัฒนธรรมจึงทําหน้าที่

                     ลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมได้

                            ข้อดีของวิถีวัฒนธรรมชุมชนข้อที่สอง คือ การที่สมาชิกในชุมชนสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินร่วมกัน

                     สามารถแบ่งปันกันได้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินส่วนรวมร่วมกัน ช่วยแก้ปัญหาการ
                     แก่งแย่ง ช่วงชิง และแข่งขัน และสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ได้

                             (2)  ปัจจุบันพบว่าสิทธิด้านวิถีวัฒนธรรมชุมชน อาจขัดแย้งกับสิทธิวัฒนธรรมระดับปัจเจกบุคคลได้

                     การอ้างขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม เพื่อบังคับให้สมาชิกในชุมชนต้องยึดถือหรือปฏิบัติตามพิธีกรรม
                     บางอย่าง ด้วยเหตุผลของวิถีชุมชนย่อมไม่ถูกต้อง เช่น ประเพณีลงโทษผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ทางเพศนอก

                     สมรสด้วยการใช้หินทุ่ม (stoning) ย่อมเป็นการทรมานและเป็นการละเมิดสิทธิระดับบุคคล  ประเพณีเย็บ
                     อวัยวะเพศของหญิงสาวเพื่อรักษาพรหมจรรย์ก่อนการแต่งงานย่อมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนบุคคล

                     เป็นต้น

                            ประเด็นถกเถียงเรื่องสิทธิทางวัฒนธรรมในระดับกลุ่ม/ชุมชน กับระดับปัจเจก จึงเป็นเรื่องที่ต้อง
                     พิจารณาตามบริบทของชุมชน/สังคม นั้นๆ ปฏิญญาสิทธิทางวัฒนธรรม ข้อ 9 ได้กําหนดแนวปฏิบัติไว้ว่าให้ยึด
                     หลักธรรมาภิบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบที่จะต้องพิจารณาจากมุมมองของสาธารณะ หรือปัจเจก

                     หรือพลเมือง โดยจัดให้มีการปรึกษาหารือ การนําเสนอข้อมูล โดยคํานึงถึงมิติทางวัฒนธรรม ความ
                     หลากหลาย  ความทั่วถึง และให้ความสําคัญกับผู้ด้อยโอกาสมากกว่าบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ประเด็นพิจารณา

                     ยังมีเรื่องของความเหมาะสมและการยอมรับทางวัฒนธรรมด้วย
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19