Page 302 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 302
เมืองโดยผิดกฎหมายนั้นคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานจะประสานความร่วมมือกับผู้แทนสภาทนายความ
และหน่วยงานรับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การคุ้มครองชั่วคราวแก่แรงงานข้ามชาติต่อไป โดยสำนักงานตรวจคนเข้า
เมืองยืนยันให้ผู้ร้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งประสานไปยังหน่วยงาน
การรับฟังข้อเท็จจริง
คณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุป
สาระสำคัญได้ดังนี้
๑. ข้อเท็จจริงฝ่ายผู้ร้อง จำแนกประเด็นและข้อเท็จจริงได้ดังนี้
๑.๑ ประเด็นสภาพการจ้างและการทำงานของลูกเรือ
เรือประภาสนาวี ทั้ง ๖ ลำ มีนายศุภสิทธิ พงค์สถาพร เป็นเจ้าของและดูแลกิจการ ต่อมาได้โอน
กรรมสิทธิ์ให้กับบรรดาลูกๆ แต่โดยส่วนใหญ่ นางสาวอภิชญา พงค์สภาพร เป็นคนจัดการ รายละเอียดการ
ถือครองเรือมีดังนี้
เรือประภาสนาวี ๑ และ ๒ เจ้าของเรือชื่อ นางสาวนุสรณ์ พงค์สถาพร
เรือประภาสนาวี ๓ เจ้าของเรือชื่อ นางสาววรรณภา พงค์สถาพร
เรือประภาสนาวี ๔ เจ้าของเรือชื่อ นางสาวศุภริ พงค์สถาพร
เรือประภาสนาวี ๕ เจ้าของเรือชื่อ นางสาวอภิชญา พงค์สถาพร
เรือประภาสนาวี ๖ เจ้าของเรือชื่อ นายศุภสิทธิ พงค์สถาพร
โดยเจ้าของเรือทุกคนมีที่อยู่ที่เดียวกันคือบ้านเลขที่ ๘/๓ หมู่ ๕ ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัด
สมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๑๗ และ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เรือประภาสนาวีทั้ง ๖ ลำ พร้อมลูกเรือทั้งคนไทย
และแรงงานข้ามชาติจำนวน ๑๒๘ คนออกเดินทางไปประกอบกิจการสัมปทานการจับสัตว์น้ำนอกน่าน
น้ำไทย โดยได้สัมปทานบริเวณหมู่เกาะวานั้ม ประเทศอินโดนีเชีย ซึ่งจะต้องขออนุญาตและทำเอกสารของ
ลูกเรือ (Seaman book) เดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อไปรอเอกสารเกี่ยวกับการสัมปทานหรือที่เรียกกันว่า
“ตั๋วหาปลา” เอกสารการเสียภาษี ที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย
เรือเดินทางไปถึงเกาะวานั้ม ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณกลางเดือนสิงหาคม ๒๕๔๖ และเริ่มออกหาปลา
ประมาณปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๔๖
เรือประภาสนาวีที่ไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเรือลากคู่ ส่วนใหญ่จะจับปลาทู ใช้เวลาในการ
หาปลาคราวหนึ่งประมาณ ๔๕ วัน โดยไม่มีวันพัก เมื่อถึงกำหนดจะกลับเข้าเกาะวานั้ม เพื่อขนปลาขึ้นเรือ
แม่ ในช่วงนี้ประมาณ ๑ สัปดาห์ จะให้แรงงานได้พัก และเพื่อเตรียมวัตถุดิบและสิ่งของที่จำเป็นในเรือ
ตลอดจนซ่อมแซมเรือให้มีความพร้อมในการออกทะเลต่อไป
เรือประภาสนาวี ในแต่ละลำจะมีไต้ก๋งเป็นผู้ดูแลและสั่งการ รองลงมาจะเป็นนายท้ายทำหน้าที่เป็น
ผู้ช่วยไต้ก๋ง เช่น ขับเรือแทนไต้ก๋ง นายท้ายก็จะมีผู้ช่วยอีกประมาณ ๓ คน รองจากนายท้ายจะเป็นช่างเครื่อง
หรือช่างประจำเรือ มีผู้ช่วยเรียกว่าช่างน้ำมัน รองลงมาเป็นหัวหน้าคนงานอวน ซึ่งจะดูแลคนงานที่ทำงาน
เกี่ยวกับปลา สุดท้ายจะเป็นจุมโพ้ หรือพ่อครัว
ในระหว่างจับปลาที่เกาะวานั้ม มีลูกเรือเดินทางไปกับเรือแม่เพื่อไปทำงานในเรือประภาสนาวีด้วย
เรือประภาสนาวีได้ออกจับปลาทั้งสิ้น ๑๗ เที่ยว รวมเวลาประมาณ ๓ ปี
๑.๒ ประเด็นลูกเรือเสียชีวิตและเจ็บป่วย
มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกเรือเจ็บป่วยและล้มตาย เนื่องจากนายจ้างผู้ถูกร้องไม่สามารถต่ออายุ
สัมปทานการจับปลาต่อไปได้ ต้องรอน้ำมันสำหรับเดินทางกลับประเทศไทย และเรือประภาสนาวีต้องอยู่ใน
สภาพหลบซ่อนมิให้ถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศอินโดนีเซียจับกุม จึงไม่สามารถจัดหาอาหารที่จำเป็นสำหรับ
๓๐๒ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน
Master 2 anu .indd 302 7/28/08 9:23:33 PM