Page 300 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 300

สาระสำคัญของเรื่องร้องเรียน
                    เครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงาน  หรือ  Labour  Rights  Promotion  Network  (LPN)  ผู้ร้องเป็น
              องค์การพัฒนาเอกชนด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน คุ้มครองสิทธิแรงงาน และสรรค์สร้างการอยู่ร่วมกัน
              ในสังคมไทยอย่างสันติ มีพื้นที่การทำงานในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ผู้ร้องได้บริการให้คำปรึกษา
              ปัญหาแรงงานข้ามชาติ โดยร่วมกับสภาทนายความ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘
                    เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ผู้ร้องได้รับเรื่องร้องเรียนจากแรงงานสัญชาติพม่า ที่ทำงานในเรือ
              ประมง ชื่อประภาสนาวี ๔ ว่า นายจ้างไม่สนใจดูแลลูกจ้างเมื่อเจ็บป่วย โดยลูกจ้างมีอาการต่าง ๆ เช่น
              ร่างกายทรุดโทรม  ตาเหลือง  ขาบวม  เมื่อเอานิ้วกดลงตามกล้ามเนื้อบริเวณขาจะเป็นรอยบุ๋มไม่คืนรูป
              การทรงตัวไม่เป็นปกติ หลังจากนั้นแรงงานที่เป็นอาสาสมัครในชุมชนได้แจ้งข้อมูลทำนองดังกล่าวอีกหลายราย
                    หลังจากรับเรื่องร้องเรียนประมาณ ๑ สัปดาห์ ผู้ร้องได้ลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง พบว่า
              ลูกเรือประภาสนาวีทุกคนมีลักษณะอาการเดียวกันคือ การทรงตัวไม่เป็นปกติ ตัวบวม บางรายถุงอัณฑะบวม
              และเสียชีวิต ๑ รายชื่อนายไข่ ได้ฌาปนกิจศพแล้ว
                    เรือประภาสนาวีเป็นเรือประมงที่ได้รับสัมปทานการจับปลานอกน่านน้ำ ได้ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน ๖
              ลำ มีนายศุภสิทธิ พงค์สถาพร เป็นเจ้าของ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ ๘/๓ หมู่ ๕ ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง
              จังหวัดสมุทรสาคร เรือประภาสนาวีได้รับสัมปทานให้จับปลาบริเวณหมู่เกาะวานั้ม ประเทศอินโดนีเซีย ออก
              เดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย  เมื่อเดือนกรกฎาคม  ๒๕๔๖  และหาปลามาตลอดระยะเวลาสัมปทาน
              ประมาณ ๓ ปี
                    เมื่อสัมปทานการหาปลาของเรือประภาสนาวีดังกล่าวสิ้นสุดลง นายจ้างได้พยายามเจรจาเพื่อขอต่อ
              อายุสัมปทานแต่ไม่สำเร็จ เรือประภาสนาวีจึงต้องจอดอยู่ในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากหากจอดเรือ
              เทียบท่าจะถูกเจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
                    ในระหว่างที่รอการขอต่ออายุสัมปทานเป็นเวลากว่า ๒ เดือน  เรือไม่สามารถหาปลาได้ ส่งผลให้
              ลูกเรือทั้งชาวไทยและชาวพม่าไม่สามารถขึ้นฝั่งเพื่อซื้ออาหาร ยารักษาโรค และเข้ารับการรักษาพยาบาลใน
              กรณีเจ็บป่วยได้ แรงงานที่เป็นลูกเรือจึงต้องยังชีพด้วยการกินอาหารที่เหลือ และช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดไป
              วัน ๆ ด้วยการตกปลาโดยไม่มีเครื่องปรุงรสใด ๆ ลูกเรือเริ่มมีอาการป่วย และเสียชีวิตในเวลาต่อมาจำนวน
              ๒ คน ลูกเรือที่เหลือจึงได้ช่วยกันจัดการศพ โดยการฝังไว้บนเกาะแห่งหนึ่งที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจาก
              จัดการศพเสร็จไม่นาน เรือจึงเดินทางจากประเทศอินโดนีเซียกลับประเทศไทย ในระหว่างนี้ลูกเรือที่เจ็บป่วย
              เสียชีวิตลงทุกวัน และมีการทยอยทิ้งศพลงทะเล
                    เรือประภาสนาวีเข้ามาถึงท่าเรือวัดหลังศาล ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ในวันที่
              ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ รวมลูกเรือที่เสียชีวิตจำนวน ๓๙ คน และที่เจ็บป่วยอีกจำนวนมาก

              ความต้องการของผู้ร้อง
                    ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ตรวจสอบข้อเท็จจริงการกระทำของนายจ้างที่ไม่ดูแล
              รักษาลูกจ้างที่เจ็บป่วย  ไม่ชดเชยการเสียชีวิต  และไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง  และขอให้ตรวจสอบว่า
              เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ เพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้แก่ลูกจ้าง

              การดำเนินการตรวจสอบ
                    คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ได้พิจารณาคำร้อง คำชี้แจงของผู้ร้อง นายจ้างผู้ถูกร้อง และส่วน
              ราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นควรกำหนดประเด็นการตรวจสอบดังนี้
              		    ประเด็นแรก เจ้าของเรือประภาสนาวี จะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างหรือสิทธิประโยชน์ในการทำงาน
              และในกรณีที่ลูกเรือเจ็บป่วยหรือถึงแก่ความตายในระหว่างไปทำงานกับเรือประภาสนาวีหรือไม่ เพียงใด

        ๓๐๐  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   300                                                                     7/28/08   9:23:32 PM
   295   296   297   298   299   300   301   302   303   304   305