Page 295 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 295

หรือไม่ และควรตรวจสอบการเก็บค่าบริการและค่าใช้จ่ายว่าเกินที่กำหนดไว้หรือไม่ หากพบว่าผิดให้เพิกถอน
              ใบอนุญาตการส่งแรงงานไทยไปไต้หวันของบริษัทจัดหางานดังกล่าว
                    (๒) ควรตรวจสอบการจ่ายค่าบริหารดูแลคนงานไทยแก่บริษัท หัวผาน ของบริษัท KRTC ว่าถูกต้อง
              หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และให้ดำเนินคดีกับบริษัท หัวผาน ที่จัดหางานโดยผิดกฎหมาย
                    (๓)  คณะกรรมการกิจการแรงงานไต้หวันควรทบทวนระบบการนำเข้าแรงงานต่างชาติ  โดยให้
              ผู้รับเหมาแต่ละรายเป็นผู้รับผิดชอบการนำเข้าแรงงานต่างชาติ และบริหารดูแลกันเอง และปรับปรุงระบบการ
              ร้องทุกข์ของแรงงานต่างชาติให้มีประสิทธิภาพ
                    (๔) ควรเพิ่มโทษทางอาญาสำหรับนายจ้างหรือผู้จัดหางานที่บริหารหรือดูแลแรงงานต่างชาติอย่างไม่
              เหมาะสม

              	     ๓. ความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่สำคัญ มีดังนี้
                      (๑) วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๘ รองประธานาธิบดีไต้หวันได้กล่าวในระหว่างพบหารือกับประธาน
              คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎรว่า ไต้หวันจะตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเพื่อแรงงาน
              ต่างชาติ ขึ้นต่อคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาสิทธิมนุษยชนประจำทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อดูแลสภาพการ
              จ้างงานและสวัสดิภาพ ตลอดจนติดตามข้อร้องเรียนของคนงานต่างชาติที่ได้รับการปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
              จากนายจ้างในไต้หวัน
                      (๒) เหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ สะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหาที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ในการ
              จัดส่งแรงงานซึ่งมีข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบางรายทั้งฝ่ายไทยและไต้หวัน มีส่วนร่วมในการพยายาม
              ลดต้นทุนเพื่อให้ได้ค่านายหน้ามากขึ้น ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทยสอบสวนเรื่องนี้เพื่อให้เกิด
              ความกระจ่าง และหวังว่าฝ่ายไทยจะให้ความร่วมมือกับไต้หวันปรับปรุงวิธีการจัดส่งแรงงานไทยไปไต้หวัน
              ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
              		    	 (๓) กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศของไทยได้ทำรายงาน เรื่อง เหตุการณ์จลาจลของแรงงาน
              ไทยในไต้หวัน ลงวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๔๘ รายงานต่อคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร สรุป
              ได้ดังนี้
                         (๓.๑) เมื่อปรากฏข่าวเรื่องนี้ทางสื่อ นายกรัฐมนตรีไต้หวันเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐของไต้หวัน
              ให้มีความเมตตาต่อแรงงานต่างชาติที่ต้องแบกรับงานหนักแทนคนไต้หวัน  และให้มีการปรับปรุงสภาพ
              การจ้างและสวัสดิการของคนงานต่างชาติให้เหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น
                         (๓.๒) สถานการณ์แรงงานไทยในไต้หวัน แรงงานต่างชาติในไต้หวันมีประมาณ ๒ แสนคนเศษ
              จำนวน ๑ แสนคนเศษ เป็นคนงานไทย นำรายได้เข้าไทยปีละ ๕๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นคนงาน
              จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงานไต้หวัน จำนวน ๑๕,๘๔๐ เหรียญไต้หวัน
              ต่อเดือน มีการประกันสังคมและประกันสุขภาพตามข้อตกลงไทย – ไต้หวัน คนงานไทยทุกคนจะมีที่พัก
              อาศัยคนงานไทยมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ ๒๐,๐๐๐ เหรียญไต้หวัน
                        คนงานไทยประสบปัญหาหลายประการ  กล่าวคือ  นายจ้างจ่ายค่าจ้างไม่ถูกต้อง
              ตามสัญญา ถูกโกงค่าจ้างเนื่องจากเศรษฐกิจไต้หวันถดถอย เรื่องที่พักอาศัยและอาหาร สภาพแวดล้อมใน
              การทำงานไม่ดี ค่านายหน้าสูงมากราว ๑ – ๒ แสนบาทต่อคน ส่วนใหญ่กู้เงินและเสียดอกเบี้ยร้อยละ ๓
              ต่อเดือน เสพยาเสพติดและเสพสุราเรื้อรัง และคนงานไทยมีสภาพเจ็บป่วยทางจิต
                        ฝ่ายบริหารบริษัท KRTC ยอมรับว่าในระยะเวลา ๑๔ ปีที่ไต้หวันนำเข้าแรงงานต่างชาติมีคน
              งานไทยเสียชีวิตจากการทำงานที่ไต้หวัน อย่างน้อย ๗๐๐ – ๘๐๐ ราย มีผู้บาดเจ็บ พิการ และเป็นอัมพาต
              คนงานไทยจำนวนหนึ่งต้องการกลับประเทศไทย แต่ยังค้างชำระค่านายหน้า จึงต้องทนทำงานต่อไป
                        ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถป้องกันหรือแก้ไขปัญหาการลักลอบหรือการเข้าไปทำงานที่

                                                                    และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๒๙๕





     Master 2 anu .indd   295                                                                     7/28/08   9:23:28 PM
   290   291   292   293   294   295   296   297   298   299   300