Page 296 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 296
ไต้หวันในลักษณะแอบแฝง อำพราง หรือซ่อนเร้น อันเป็นขบวนการชักนำคนงานไทยไปสู่วงจรการค้ามนุษย์
ยาเสพติด การค้าประเวณี และแรงงานทาส
เกี่ยวกับนโยบายด้านแรงงานต่างชาติของไต้หวัน ทางการไต้หวันชี้แจงว่าไต้หวันจะยึดมั่น
หลักการความเสมอภาค ผลประโยชน์ร่วมกันและให้เกียรติกันโดยผลประโยชน์ของคนงานไทยเท่าเทียม
คนงานชาติอื่น แต่ในทางปฏิบัติไต้หวันใช้ประเด็นแรงงานกดดันไทยในทางการเมือง เช่น มีนโยบาย
จ้างแรงงานต่างชาติชาวฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและมองโกเลียแทนแรงงานไทยในกิจการก่อสร้างขยายระยะ
เวลาในการอนุมัติการนำเข้าคนงานไทยจาก ๑๐ วัน เป็น ๖๐ วัน ไม่อนุญาตให้ภัตตาคารหรือร้านอาหาร
ไทยในไต้หวันจ้างผู้ปรุงอาหารที่เป็นคนงานไทย เป็นต้น
(๓.๓) ข้อเสนอแนะของกรมการกงสุลไทย มีสาระสำคัญดังนี้
ติดตามผลกรณีที่ไต้หวันประกาศว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษ คือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
เพื่อแรงงานต่างชาติ
ติดตามผลการแก้ไขปัญหาของนายจ้างที่ตกลงจะแก้ไข
ติดตามผลเรื่องการดำเนินคดีของทางการไต้หวันต่อนายจ้างและบริษัทที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
ควรตรวจสอบระบบการจัดส่งคนงานไปไต้หวันให้รัดกุมยิ่งขึ้น บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและโดยเคร่งครัด
สำหรับผู้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องระบบและรักษาคนดีไว้
ควรนำเรื่องมาตรการหรือแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์มาแก้ไขปัญหาควบคู่กัน ควรประสาน
ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ปดส. ปปง. และกระทรวง
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
๔. มีข้อน่าสังเกตว่า ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ มีการประชุมคณะกรรมการร่วม
หารือไทย – ไต้หวัน ครั้งที่ ๙ ฝ่ายไทยมีอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เป็นหัวหน้าคณะ มีข้อ
สรุปในการดำเนินการเรื่องการส่งคนงานไทยไปไต้หวันหลายประการ เช่น ไต้หวันยอมรับการใช้เลขประจำตัว
ประชาชนไทย ๑๓ หลักในฐานข้อมูลของไต้หวันเพื่อป้องกันเรื่องการแก้ไขชื่อเพื่อเข้าทำงานในไต้หวันซ้ำ
ตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลและลงโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับค่านายหน้า ไต้หวันจะผ่อนปรนเรื่องการตรวจสุขภาพ
ฝ่ายไทยรับจะฝึกอบรมแรงงานก่อนเดินทางและลงโทษแรงงานที่หลบหนีนายจ้าง กรณีคนงานไทยมิได้ทำผิด
แต่ถูกเลิกจ้าง ให้โอนย้ายงานได้ มีนโยบายให้จ้างงานโดยตรงเพื่อแก้ปัญหานายหน้า จะร่วมมือแก้ปัญหา
เรื่องนายจ้างหักค่าอาหาร เป็นต้น แต่ไม่มีการพิจารณาแก้ไขปัญหากรณีตามคำร้องนี้ ทั้ง ๆ ที่คนงานไทยได้
ร้องเรียนต่อสำนักงานแรงงานไทยเกาสง ถึง ๒ ครั้ง และเจ้าหน้าที่ของไทยก็ไม่ได้รับเบาะแสหรือข่าวความ
ขัดแย้งระหว่างนายจ้างหรือผู้รับเหมางานกับคนงานไทยที่ไต้หวันแต่อย่างใด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง
ในวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๒๘ หรือประมาณ ๑ เดือนหลังการประชุมคณะกรรมการดังกล่าว แสดงให้เห็นจุด
อ่อนของกลไกการรับเรื่องร้องทุกข์หรือการเข้าถึงข้อมูลปัญหาของคนงานไทยที่ไต้หวัน
๒๙๖ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน
Master 2 anu .indd 296 7/28/08 9:23:29 PM