Page 294 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 294

รัฐมนตรีทราบทันทีและสั่งการให้สำนักงานแรงงาน  ณ  กรุงมะนิลา  สาขาเมืองเกาสง  ประสานงานกับ
              สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยช่วยเหลือแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด
                    (๒) ฝ่ายบริหารกระทรวงแรงงานของไทยเดินทางไปไต้หวันและประสานงานกับนายจ้างและหน่วยงาน
              ที่เกี่ยวข้อง ให้นายจ้างปฏิบัติตามสัญญา ปรับปรุงสภาพการจ้างและที่พักอาศัยให้ได้มาตรฐานและเจรจา
              ต่อรองให้ทางการไต้หวันผ่อนปรนในการดำเนินคดีอาญากับคนงานไทย โดยขอให้พิจารณาประเด็นการกดขี่
              คนงานไทยและหลักสิทธิมนุษยชนควบคู่กัน
                    (๓) มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของนายจ้างที่ไต้หวัน เช่น ยกเลิกระเบียบห้ามมีและใช้โทรศัพท์
              มือถือในที่พักอาศัย คืนเงินหักฝากกันหนีซึ่งหักจากค่าจ้างทุกคนเดือนละ ๑,๐๐๐ เหรียญไต้หวัน ยกเลิกการ
              จ่ายเงินล่วงหน้าในรูปคูปองโดยจ่ายเป็นเงินสด จัดบริการน้ำดื่มที่สะอาดให้เพียงพอ แก้ไขปัญหาเรื่องที่พัก
              อาศัยแออัด เป็นต้น
              	     (๔) จัดส่งพนักงานอัยการและว่าจ้างทนายความชาวไต้หวันเพื่อให้ความช่วยเหลือคนงานไทยในคดีอาญา
                    (๕) กระทรวงแรงงานได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาจัดโครงสร้างระบบการส่งแรงงานไทยไปต่าง
              ประเทศ โดยมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาจัดโครงสร้างระบบการส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ และการ
              ปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับ กระบวนการดำเนินงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้ทันสมัยและโปร่งใส
              การตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด

                    การดำเนินการของทางการไต้หวัน
              		    คณะกรรมการกิจการแรงงานไต้หวัน (CLA) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนเพื่อ
              ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว มีรายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารสรุป
              ผลตรวจสอบสิทธิมนุษยชนแรงงานไทยในกรณีดังกล่าว ซึ่งแปลและสรุปโดยนายวิรัตน์ เทาประเสริฐ ล่าม
              สำนักงานแรงงานไทเป สรุปได้ดังนี้

                    สรุปผลการตรวจของคณะกรรมการตรวจสอบสิทธิมนุษยชน (ไต้หวัน) สรุปได้ดังนี้
                    (๑) บริษัท KRTC ในฐานะนายจ้างบกพร่องในการดูแลคนงานไทย ที่พักแออัด ไม่ถูกหลักสุขอนามัย
              จนเป็นเหตุให้คนงานไทยก่อเหตุประท้วง และได้ขอให้นายจ้างปรับปรุงแก้ไขตามข้อเรียกร้องของคนงานไทย
              จำนวน ๒๓ ข้อ ภายใน ๗ วัน
                    (๒) บริษัท หัวผาน จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัทนายจ้างให้ดูแลแรงงานไทยเป็นบริษัทที่ไม่ได้
              รับอนุญาตจัดหางานนำเข้าแรงงานไทยและจัดหางานโดยผิดกฎหมายจึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
                    (๓) คนงานไทยส่วนใหญ่มีความซื่อและอ่อนโยน ข้อเรียกร้องของคนงานไทยส่วนใหญ่เกิดจากความ
              บกพร่องในการบริหารและดูแลคนงานไทยของนายจ้าง  จึงไม่ควรพิจารณาคนงานไทยว่าเป็นผู้ฝ่าฝืน
              กฎหมาย คนงานไทยเคยร้องเรียนปัญหาการละเมิดสิทธิต่อสำนักงานแรงงานไทยเกาสง ๒ ครั้งแล้ว แต่ไม่มี
              การแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที สำนักงานแรงงานไทยประจำเกาสงจึงบกพร่องต่อหน้าที่
                    (๔) นายจ้างฝ่าฝืนกฎหมายการจ้างงานของไต้หวัน เรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทจัดหางานแจ้ง
              ข้อมูลเท็จ และปลอมแปลงเอกสารในการนำเข้าแรงงานไทย จะต้องถูกลงโทษโดยการระงับโควต้าในส่วนที่
              ยังมิได้นำเข้าแรงงานไทย และระงับใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานที่นำเข้ามาแล้ว

                    ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการตรวจสอบสิทธิมนุษยชน (ไต้หวัน) สรุปได้ดังนี้
                    (๑)  ควรลงโทษบริษัท  KRTC  ด้วยการระงับโควต้าแรงงานต่างชาติส่วนที่ยังมิได้นำเข้า  รวมถึง
              ใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างชาติที่นำเข้ามาแล้ว และให้ตรวจสอบกรณี บริษัท KRTC รับเงินจากผู้รับเหมา
              ที่ต้องการจ้างแรงงานต่างชาติและจ่ายเงินให้บริษัท หัวผาน เพื่อดูแลแรงงานไทยว่าถูกต้องหรือเหมาะสม

        ๒๙๔  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   294                                                                     7/28/08   9:23:28 PM
   289   290   291   292   293   294   295   296   297   298   299