Page 288 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 288

ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ผู้ถูกร้องได้สอบถามพนักงาน โดยมี ๓ ทางเลือก
              และจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ดังนี้
                      ๑) ทำงานที่ บทด.ต่อ (อัตราพนักงานจำนวนจำกัด)
                      ๒) ไปอยู่บริษัทที่จัดตั้งใหม่ ชื่อ บริษัท บทด. จำกัด
                      ๓) ไม่อยู่ ขอเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เฉพาะอายุงาน ๖ ปีขึ้นไป)
              	     ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๘ ผู้ถูกร้องได้สอบถามพนักงาน โดยมี ๒ ทางเลือก ดังนี้
                      ๑) ไปอยู่บริษัทที่จัดตั้งใหม่
                      ๒) ขอเข้าโครงการ “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย”
                    ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๔๙ ผู้ถูกร้องได้สอบถามพนักงาน โดยมี ๒ ทางเลือก ดังนี้
                      ๑) ประสงค์ขอเข้าโครงการ “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย”
                      ๒) กรณีที่พนักงานไม่เลือกข้อ ๑ บริษัทถือว่าท่านประสงค์จะไปอยู่ที่บริษัทที่จัดตั้งใหม่

                    ต่อมาเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๔๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสุวภัทร สุวรรณกิจ ตำแหน่งกรรมการ
              บริหาร รักษาการผู้อำนวยการ (ผู้ถูกร้อง) ได้เรียกประชุมพนักงานเพื่อชี้แจงถึงที่มาของแบบสอบถามครั้งที่ ๓
              สรุปการชี้แจงได้ว่า ผู้ถูกร้องไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะให้พนักงานทำงานกับผู้ถูกร้องอีกต่อไป ภายหลังจากการ
              จัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำเร็จเรียบร้อย โดยให้พนักงานเลือกได้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง และถ้าไม่เลือก ผู้ถูกร้องจะใช้
              อำนาจให้พนักงานผู้ถูกร้องไปอยู่บริษัทใหม่ตามข้อ ๒ ซึ่งผู้ร้องไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าการดำเนินการของ
              ผู้ถูกร้องขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๗ ที่กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแปลงสภาพ
              รัฐวิสาหกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานข้อ ๓.๓ ที่ระบุว่า “ให้สร้างความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ของ
              พนักงาน โดยพนักงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าเดิม นับอายุงานต่อเนื่อง และไม่ปลดพนักงาน”
                    ผู้ร้องและพนักงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ไม่ได้มีมติ
              ให้ปลดพนักงานภายหลังการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนหรือยุบเลิกกิจการของผู้ถูกร้อง การที่สภากรรมการ ผู้ถูกร้อง
              จัดให้มีโครงการ “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย” มีเจตนาบังคับให้ผู้ร้องรวมทั้งพนักงานอื่นให้กระทำ
              ในสิ่งที่พนักงานรวมถึงผู้ร้องไม่ต้องการ เพราะโครงการ “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย” ของผู้ถูกร้อง
              ไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะให้พนักงานรวมทั้งผู้ร้องทำงานกับผู้ถูกร้องต่อไป ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการปลดพนักงานทุก
              คนรวมทั้งผู้ร้อง จึงเป็นการฉ้อฉล และสภากรรมการผู้ถูกร้องไม่มีอำนาจปลดพนักงานหรือยุบเลิกกิจการผู้ถูกร้อง
                    ๒. ผู้ร้องได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ และได้
              แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม  เพื่อให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตรวจสอบ  ซึ่งในเอกสาร
              ดังกล่าวชิ้นหนึ่งมีหนังสือซึ่งลงลายมือชื่อของพนักงานผู้ถูกร้องที่เคยลงชื่อยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการ
              “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย” ของผู้ถูกร้อง รวมทั้งผู้ร้อง จำนวน ๒๐ คน ถึงกรรมการบริหารรักษา
              การผู้อำนวยการ  ผู้ถูกร้องระบุว่า  “ขอสงวนสิทธิในการกลับเข้าทำงานใหม่  และขอให้ใบสมัครเข้าร่วม
              โครงการร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่ายเป็นโมฆะ หากปรากฏในภายหลังว่าผู้ถูกร้องไม่ได้ดำเนินการ
              ใน ๓ เรื่อง คือ ๑) ปิดกิจการและยุติธุรกรรมของผู้ถูกร้องทั้งหมด ๒) สิทธิประโยชน์ของพนักงานที่ผู้ถูกร้อง
              เลิกจ้างเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกิจการของผู้ถูกร้องไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๗ เมษายน
              ๒๕๔๗ และ ๓) โครงการ “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย” ของผู้ถูกร้องไม่ได้รับการอนุมัติโดยถูก
              ต้องจากกระทรวงการคลัง และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด
                    ๓. ผู้ร้องได้ให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ว่าขณะนี้
              ผู้ร้องถูกผู้ถูกร้องให้ออกจากงานตามที่ผู้ร้องได้ยื่นเข้าโครงการ  “ร่วมใจจากด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย”
              ของผู้ถูกร้องร่วมกับพนักงานของผู้ถูกร้องอื่นอีก ๓๔ คน ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าโครงการดังกล่าวของผู้ถูกร้องดำเนิน
              การโดยบีบบังคับพนักงานของผู้ถูกร้องรวมทั้งผู้ร้องด้วย เพราะมีทางให้เลือกเพียง ๒ ทาง คือ

        ๒๘๘   สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   288                                                                     7/28/08   9:23:24 PM
   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293