Page 276 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗
ในระหว่างพิจารณาตรวจสอบ ลูกจ้างของบริษัท บี เอ็น จี เซอร์วิส จำกัด ผู้ร้องตามคำร้องที่ ๒๒๗/
๒๕๔๗ แจ้งต่อคณะอนุกรรมการฯ ว่าลูกจ้างจำนวน ๒๘ คน สามารถตกลงกับบริษัทฯ ได้แล้วเมื่อวันที่ ๑๗
พฤษภาคม ๒๕๔๗ โดยลูกจ้างยินดีรับเงินช่วยเหลือจากบริษัทอัตราร้อยละ ๖๐ ของค่าชดเชยตามกฎหมาย
และลุกจ้างยินดีลาออกจากบริษัทฯ จึงขอยุติเรื่องร้องเรียน คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าประเด็น
ร้องเรียนเป็นเรื่องสิทธิของบุคคล เมื่อบริษัทฯ ได้แก้ไขเยียวยาให้แก่ลูกจ้างผู้ร้องจนเป็นที่พอใจแล้ว และ
ไม่ประสงค์ให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาตรวจสอบต่อไป จึงเห็นควรยุติการพิจารณาคำร้องดังกล่าว

ประเด็นการตรวจสอบ
คณะกรรมการได้พิจารณาคำร้อง คำชี้แจงของผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดจนหลักฐาน
ต่างๆ ประกอบแล้ว ประเด็นการตรวจสอบมี ดังนี้
ประเด็นแรก ผู้ถูกร้องออกคำสั่งหรือประกาศห้ามลูกจ้างปิดประกาศหรือแจกจ่ายเอกสารหรือ
สิ่งพิมพ์ทุกชนิดในบริษัท เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานฯ หรือไม่
ประเด็นที่สอง ผู้ถูกร้องใช้วิธีการจ้างเหมาค่าแรงงานในงานที่เป็นกระบวนการผลิตของ ผู้ถูกร้อง
เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐธรรมนูญ หรืออนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือไม่
ประเด็นที่สาม ผู้ถูกร้องเลิกจ้างลูกจ้างหญิงมีครรภ์ เป็นการเลิกจ้างที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือ
เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่

ข้อเท็จจริงที่ได้รับจากการพิจารณา
๑. เรื่องคำสั่งหรือประกาศห้ามปิดประกาศหรือแจกจ่ายเอกสาร
ผู้ถูกร้องยอมรับว่า ได้ออกประกาศฉบับลงวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๔๖ ห้าม ลูกจ้างนำใบ ข้อความหรือ
ใบปลิวทุกชนิด เข้ามาปิดและหรือแจกทั้งภายในบริเวณบริษัทของผู้ถูกร้อง หรือบริเวณรั้วรอบนอกบริษัท
ผู้ถูกร้อง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ร้องเสียก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากมีลูกจ้างบางคนนำใบข้อความหรือใบปลิวมา
แจกจ่ายและปิดประกาศตามสถานที่ต่างๆ ภายในบริษัทผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อยู่ในระหว่างการเจรจา
ข้อเรียกร้องระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้องจริง
ผู้ร้องได้ทำหนังสือถึงผู้ร้องฉบับลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๖๔๖ คัดค้านประกาศของ ผู้ถูกร้อง และ
ชี้แจงเหตุผลที่สมาชิกสหภาพแรงงานจากจ่ายเอกสารของสหภาพแรงงาน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการเจรจา
ข้อเรียกร้องเพื่อประโยชน์ในการสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี มิได้เจตนาทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ผู้ถูก
ร้องหรือทำให้ลูกจ้างเกิดความแตกแยกดังที่ผู้ถูกร้องกล่าวอ้างแต่ประการใด
๒. เรื่องการจ้างเหมาค่าแรง
ผู้ถูกร้องตั้งสถานประกอบการอยู่เลขที่ ๖๐/๙๓ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอ
คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทเป็นชาวสิงคโปร์ ผู้ถูกร้องประกอบกิจการ
ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ประเภทหัวอ่านและเรือนประกอบ จำหน่ายให้กับลูกค้าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ ผู้ถูกร้อง มีลูกจ้างของตนเองเพียง ๑.๖๐๐ คน ในขณะที่อีกประมาณ
๑๔,๐๐๐ คนเป็นลูกจ้างของบริษัทรับเหมาค่าแรงจำนวน ๖ บริษัท
ลูกจ้างของผู้รับเหมาค่าแรงงานต้องจ่ายเงินค่าฝึกงานให้นายจ้าง และต้องจ่ายค่าชุดทำงานอีกทั้ง
ไม่ได้รับสภาพการจ้างอย่างเท่าเทียมกับลูกจ้างของผู้ถูกร้องในเรื่องเบี้ยขยัน เงินโบนัส และการขึ้นค่าจ้าง
ประจำปี ไม่มีสิทธิยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสภาพการจ้างต่อผู้ถูกร้อง
บริษัท เอส ที ดีเบอรริ่ง จำกัด ตั้งอยู่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบริษัทรับเหมาค่าแรง
กับผู้ถูกร้อง ให้ลูกจ้างหญิงจำนวน ๓๓ คน หยุดงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างให้ ซึ่งบริษัทฯ ยอมรับกับพนักงานตรวจ

๒๗๖ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน

Master 2 anu .indd 276 7/28/08 9:23:17 PM