Page 265 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 265
ความต้องการของผู้ร้อง
ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติช่วยเหลือให้ผู้ร้องได้รับการรักษาพยาบาลจนหายเป็นปกติ
และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครบถ้วน
การดำเนินการตรวจสอบ
คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานพิจารณาคำร้องและคำชี้แจงของผู้ร้องแล้ว จึงได้กำหนดประเด็น
การตรวจสอบดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง ผู้ถูกร้องทั้งสองให้ผู้ร้องลาออกจากงานเพื่อเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา ๓๙
แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ร้องหรือไม่
ประเด็นที่สอง ผู้ถูกร้องทั้งสองได้ดำเนินการให้ผู้ร้องได้รับสิทธิประโยชน์ เนื่องจากการประสบ
อันตรายจากการทำงานให้นายจ้าง ครบถ้วนหรือไม่
ประเด็นที่สาม เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมปฏิบัติหน้าที่และบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกองทุนเงิน
ทดแทนและกองทุนประกันสังคม ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หรือเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องหรือไม่เพียงใด
การรับฟังข้อเท็จจริง
คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานได้รับฟังคำชี้แจงทั้งจากผู้ร้อง ผู้ถูกร้องทั้งสอง และเจ้าหน้าที่สำนักงาน
ประกันสังคม เขตพื้นที่ ๒ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรสาคร และได้รับเอกสารการจ่ายเงินตาม
กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุจากบริษัท ไพบูลย์ประกันภัย จำกัด แล้ว สรุปสาระสำคัญของข้อเท็จจริงได้ ดังนี้
ข้อเท็จจริงฝ่ายผู้ร้อง
ผู้ร้องเป็นลูกจ้างของผู้ถูกร้องที่ ๑ ทำหน้าที่ส่งเอกสารโดยรถจักรยานยนต์ทำงานกับผู้ถูกร้องเป็นเวลา
๓ ปีเศษ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ ๗,๓๐๐ บาท และนายจ้าง ผู้ถูกร้องที่ ๑ ได้ทำประกันภัยให้กับผู้
ร้องไว้กับบริษัท ไพบูลย์ประกันภัย จำกัด แต่มิได้แจ้งข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการประกันภัยให้ผู้
ร้องทราบแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗ ผู้ร้องประสบอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงาน คนขับรถบรรทุกคันที่ชน
ผู้ร้องได้หลบหนีไป พลเมืองดีได้นำส่งผู้ร้องโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รักษาตัวอยู่ได้ ๕ วัน ผู้ร้องขอย้ายไป
รักษาตัวที่โรงพยาบาลเลิดสิน และเกรงว่าจะไม่มีค่ารักษาพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าผู้ร้องเป็นอัมพาต
ตั้งแต่ช่วงเอวลงมา และไม่สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ได้อีก
ในระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผู้ร้องได้ทำเรื่องการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ไม่มีเงินรักษา เพื่อขอ
ส่วนลดในเรื่องค่ารักษาพยาบาล
ผู้ร้องไม่ทราบว่านายจ้าง บริษัทประกันภัย และกองทุนเงินทดแทนได้ออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษา
พยาบาลของผู้ร้องจำนวนเท่าใด แต่ผู้ถูกร้องทั้งสองอ้างว่า นายจ้างผู้ถูกร้องที่ ๑ เป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาล
ทั้งหมด
ราวต้นเดือนกันยายน ๒๕๔๗ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของผู้ถูกร้องที่ ๑ ได้พูดจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ร้องลาออก
จากงาน แล้วจะได้ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพหลังจากลาออก และให้สมัครเป็นผู้ประกัน
ตนตามมาตรา ๓๙ ของกฎหมายประกันสังคม จะได้สิทธิการรักษาพยาบาลจากสำนักงานประกันสังคม
ผู้ร้องไม่อาจทำงานได้ ขาดรายได้ ในขณะที่ภรรยาต้องลาออกจากงานเพื่อดูแลผู้ร้อง และผู้ร้องยังมีภาระ
ในเรื่องค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า และไม่ทราบว่าจะต้องรักษาตัวอีกนานเท่าใด จึงลงลายมือชื่อใน
ใบลาออก มอบให้ภรรยาเพื่อส่งมอบให้นายจ้างต่อไป แต่เนื่องจากมีผู้แนะนำให้ภรรยาของผู้ร้องไปร้องเรียน
ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ภรรยาของผู้ร้องจึงมิได้ส่งมอบใบลาออกให้แก่นายจ้าง ผู้ถูกร้องที่ ๑
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๒๖๕
Master 2 anu .indd 265 7/28/08 9:23:12 PM