Page 261 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 261
ด้านแรงงานสัมพันธ์ในการเจรจาต่อรองเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในระดับที่เป็นไปได้แล้วค่อย
พัฒนาในโอกาสต่อไปเพื่อรักษาองค์กรไว้ก่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับบริหารด้านแรงงานในระดับจังหวัดก็มี
เจตคติต่อสหภาพแรงงานในทางลบ จึงขาดแรงจูงใจและการคิดค้นมาตรการในการแก้ไขปัญหา จนกระทั่ง
นำมา ซึ่งความร้าวฉาน และความเสียหายต่อระบบแรงงานสัมพันธ์ และการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์
(๔) จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ มีปัญหาข้อขัดแย้งด้าน
แรงงานสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ยังไม่มีกลไกในการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานยังคงชี้แจงว่า ตนไม่มีอำนาจที่จะสั่งการให้นายจ้างมอบหมายให้ลูกจ้าง
ทำงานได้เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ หน่วยงานของรัฐยังไม่มีการบูรณาการ ไม่มีการประสานความ
ร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน กลุ่มสหภาพแรงงานในเขตพื้นที่ตลอดจนองค์กรชุมชน หรือ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการเรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์ในการพัฒนาระบบแรงงานสัมพันธ์ต่อไป
มาตรการในการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีมติในการประชุมครั้งที่ ๑๔/๒๕๕๐ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม
๒๕๕๐ เห็นชอบด้วยความเห็นของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน และพิจารณาเห็นว่า ตามคำร้องนี้เป็น
กรณีการละเมิดต่อการใช้เสรีภาพของลูกจ้างในการเจรจาต่อรอง ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำซากในสังคมไทย คณะ
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงมีข้อเสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ดังนี้
มาตรการในการแก้ไขปัญหา
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
(๑) ดำเนินการให้ผู้ถูกร้องตระหนักและเข้าใจหลักการของสหภาพแรงงานประเภทกิจการเดียวกัน
และเร่งรัดแก้ไขปัญหาแรงงานสัมพันธ์ ระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้องที่เกิดความร้าวฉานให้กลับคืนสภาพปกติโดย
เฉพาะลูกจ้างที่เป็นสมาชิกของผู้ถูกร้องที่ถูกอบรมทั้งหมด ได้กลับเข้าทำงานตามสภาพการจ้างเดิม ณ สถาน
ประกอบการเดิม
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน และรายงานให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทราบ
(๒) ให้ปรับปรุงแนวปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์ในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๘ ให้เป็นเครื่อง
มือทางด้านแรงงานสัมพันธ์ที่มีบทบาททั้งในเชิงป้องกัน แก้ไขเยียวยา และส่งเสริมพัฒนา และสามารถ
แก้ไขปัญหาเชิงรุกหรือทันต่อสถานการณ์ได้ โดยการจัดประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นจากองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์เอกชน กลุ่มสหภาพแรงงานในเขตอุตสาหกรรมต่าง ๆ
และสถาบันทางวิชาการ มีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานฉบับนี้
(๓) ให้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านแรงงานสัมพันธ์ โดยการนำแนวปฏิบัติที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วตามข้อ
(๑) ไปปฏิบัติในฐานะที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาระบบแรงงานสัมพันธ์ ทั้งในส่วนสถาน
ประกอบกิจการที่ลูกจ้างเพิ่งมีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และในส่วนที่ยังเป็นปัญหาหรือมีแนวโน้มว่าจะเกิด
ปัญหาข้อขัดแย้งในขอบเขตทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดแผนปฏิบัติการประจำปี ในทุกๆ ปี
(๔) ให้ใช้กรณีตามคำร้องนี้หรือกรณีอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากเป็นกรณีศึกษาเพื่อปรับเปลี่ยน
เจตคติในทางลบของเจ้าหน้าที่ที่มีต่อสหภาพแรงงาน และเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในระดับต่าง ๆ
ให้สามารถจัดการความขัดแย้งทางด้านแรงงานสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๒๖๑
Master 2 anu .indd 261 7/28/08 9:23:08 PM