Page 159 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 159
การละเมิดสิทธิแรงงาน
คนทำงานภาคนอกระบบ
ปัญหาความแตกต่างของสิทธิประโยชน์กองทุนเงินทดแทนและกองทุนประกันสังคม ที่ควร
พิจารณาปรับปรุงแก้ไข ได้แก่
๑. ขยายการคุ้มครองให้ครอบคลุมลูกจ้างภาครัฐทุกประเภท และลูกจ้างทำงานบ้าน
ซึ่งปัจจุบันกฎหมายทั้ง ๒ ฉบับ ยกเว้น การคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน โดยกองทุนประกันสังคม
คุ้มครองลูกจ้างส่วนราชการ เฉพาะลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน แต่กองทุนเงินทดแทนไม่คุ้มครองลูกจ้าง
ทุกประเภทของราชการด้วย ทำให้ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการไม่ได้รับการคุ้มครองกรณีประสบ
อันตราย หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ยกเว้น หน่วยงานราชการนั้นจะมีระเบียบการช่วยเหลือเอง
๒. เงินทดแทนการขาดรายได้ที่จ่ายกรณีหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์จ่ายไม่เท่ากันคือ
กองทุนประกันสังคมจ่ายอัตราร้อยละ ๕๐ ของค่าจ้าง ตั้งแต่วันแรกที่หยุดงาน ส่วนกองทุนเงิน
ทดแทนจ่ายอัตราร้อยละ ๖๐ ของค่าจ้างรายเดือน โดยต้องหยุดพักรักษาตัวติดต่อกันเกิน ๓ วันขึ้นไป
๓. กองทุนเงินทดแทน คุ้มครองลูกจ้างทันทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานแต่กองทุนประกันสังคม
ลูกจ้างจะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อจ่ายเงินสมทบครบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น กรณี
เจ็บป่วยและทุพพลภาพต้องจ่ายเงินสมทบอย่างน้อย ๓ เดือน ปัญหาการเจ็บป่วยที่ไม่ใช่เนื่องจาก
การทำงานที่เกิดขึ้นก่อนครบ ๓ เดือนของการเป็นผู้ประกันตน ลูกจ้างไปใช้สิทธิรักษาพยาบาล
โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดูแลอยู่ได้หรือไม่ เพียงใด?
๔. ค่าทำศพ จ่ายไม่เท่ากัน กล่าวคือ กองทุนเงินทดแทน จ่าย ๑๐๐ เท่าของอัตราสูงสุด
ของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน ส่วนกองทุนประกันสังคมจ่ายค่าทำศพอัตราแน่นอน ๓๐,๐๐๐ บาท ไม่ว่า
ผู้เสียชีวิตจะมีอายุเท่าไร และจ่ายเงินสมทบระยะเวลานานเพียงใด
มูลเหตุการละเมิดสิทธิแรงงานในภาคนอกระบบ
ปัจจัยสำคัญที่เป็นมูลเหตุ การละเมิดสิทธิแรงงานคนทำงานในภาคนอกระบบ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงแรงงานและรัฐบาลเองมีความวิตกกังวลว่า หากมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้รับงาน
ไปทำที่บ้านแล้วอาจจะเป็นผลลบต่อผู้รับงานไปทำที่บ้านเอง เช่น ทำให้การจ้างงานชะงัก หรือ
ประชาชนอาจว่างงานเพิ่มขึ้น ประกอบกับสถิติหรือจำนวนผู้รับงานไปทำที่บ้านยังไม่ชัดเจนและมี
จำนวนไม่มากนักที่จะต้องมีนโยบายหรือกฎหมายเป็นการเฉพาะ จึงเป็นผลให้รัฐบาลขาดการเอาใจ
ใส่ต่อกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน
ในขณะที่ความเป็นจริง กลุ่มผู้รับงานไปทำที่
บ้านมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดกันว่ามี
จำนวนนับล้านคน ประการสำคัญผู้รับงานไปทำที่
บ้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คนชรา เด็กและคนพิการ
โดยสมาชิกในครัวเรือนได้ช่วยทำงานด้วย อาศัย
บ้านหรือโรงเรือนของตนเองเป็นสถานที่ทำงาน เป็น
ผู้รับภาระในเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าขนส่ง
และค่าอุปกรณ์การผลิต และงานที่รับไปทำที่บ้าน
เป็นงานที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนงานในระบบอัน
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๑๕๙
Master 2 anu .indd 159 7/28/08 9:08:35 PM