Page 121 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 121
การละเมิดสิทธิแรงงาน
คนทำงานภาคเอกชน
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนงาน กิจกรรมและการประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อ
ลดความเสี่ยงอันตรายในการทำงาน ตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความรู้และความรับผิดชอบ
ในการขับขี่ ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และพนักงานที่มีอายุมาก โดยกำหนดเป็นแผนงานระยะยาว
มิใช่จำกัดแต่เพียงการรณรงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบเท่านั้น
(๘) ในการกำหนดมาตรการและระบบในการตรวจสุขภาพ ความปลอดภัย และอาชีว
อนามัยในการทำงาน จะต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องด้วย และเปิดโอกาสให้สหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน คณะกรรมการลูกจ้างคณะกรรมการ
สวัสดิการในสถานประกอบการ มีส่วนร่วมในการตรวจด้วย
ด้านแรงงานสัมพันธ์ (การรวมตัวและการเจรจาต่อรอง) มีสาระสำคัญ ดังนี้
(๑) ให้ปรับปรุงระบบการบริหารงานด้านยุติธรรมเพื่อให้มีการวินิจฉัยชี้ขาดคดี ที่มี
ผลกระทบต่อแรงงานสัมพันธ์หรือความมั่นคงในการทำงานของลูกจ้างหรือนายจ้างได้รวดเร็ว ทันต่อ
เหตุการณ์และเป็นธรรมต่อผู้ใช้แรงงานเนื่องจากกระบวนการยุติธรรมใช้เวลานานประมาณ ๓-๔ ปี
กว่าคดีจะถึงที่สุดในศาลฎีกา
(๒) เร่งปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองแรงงาน และการแรงงาน สัมพันธ์ให้
สอดคล้องและประสานเชื่อมโยงกัน ในประเด็นสิทธิและเสรีภาพในการรวมตัว และการเจรจาต่อรอง
ร่วม และปรับปรุงกลไกคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ย แก้ไข
ปัญหาข้อขัดแย้งให้เกิดความเป็นธรรมได้ทันต่อเหตุการณ์ และสร้างความสมานฉันท์ทางด้านแรงงาน
ให้นายจ้างและลูกจ้างเคารพสิทธิดังกล่าวเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
(๓) ให้เร่งดำเนินการด้านสื่อและประชาสัมพันธ์ให้สังคมเกิดความเข้าใจในเรื่องสิทธิและ
เสรีภาพในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม มิใช่เกิดความเข้าใจผิดว่า การนัดหยุดงานตาม
กฎหมาย เป็นการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือโรงงานเป็นของนายจ้าง จึงย่อมมีสิทธิไม่ให้มี
การจัดตั้งสหภาพแรงงาน
(๔) ให้ถือเป็นพันธกิจของกระทรวงแรงงาน ในการประมวลกรณีความขัดแย้งทางด้าน
แรงงานสัมพันธ์ ทั้งที่เกิดผลเปลี่ยนแปลงในด้านบวกและด้านลบ เพื่อเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่
และสร้างความตระหนักในเรื่องการใช้สิทธิและเสรีภาพในเรื่องการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม
ทั้งในระดับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลูกจ้าง และ นายจ้าง‰‰‰‰‰‰‰‰‰‰
††† (๕) ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕
๑๘ แนวปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์ในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรฐานแรงงานไทย
๘๐๐๑ ‰ให้มีหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของลูกจ้างและสหภาพแรงงานในการดำเนินกิจกรรมการ
ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเร่งรัดให้ผู้ประกอบการนำหลักจรรยา
บรรณทางการค้ามาบังคับใช้เพื่อให้เกิดผลปฏิบัติอย่างจริงจังโดยภาคประชาสังคมมีส่วนร่วม
(๖) ควรมีแนวทางหรือนโยบายส่งเสริมให้บุคลากรของรัฐที่มีบทบาทบริหารและบังคับใช้
กฎหมาย มีแนวความคิดในการแก้ไขข้อขัดแย้งทางแรงงานสัมพันธ์ เพื่อปกป้องหลักประกันความมั่นคง
ในการทำงานของลูกจ้างและสหภาพแรงงานมากกว่าการแก้ไขปัญหาโดยให้นายจ้างจ่ายเงินให้
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๑๒๑
Master 2 anu .indd 121 7/28/08 9:01:53 PM

