Page 13 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 13
รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธี
พิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ (3) เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาล
ปกครอง ในกรณีที่เห็นชอบตามที่มีผู้ร้องเรียนว่ากฎ คำสั่ง หรือการ
กระทำอื่นใดในทางปกครองกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาที่
เกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ทั้งนี้ ตาม
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง และ (4)
ฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย เมื่อได้รับการร้องขอจากผู้เสียหาย
และเป็นกรณีที่เห็นสมควรเพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น
ส่วนรวม ดังนั้น ตามที่กฎหมายบัญญัติจึงเป็นอำนาจหน้าที่สำคัญที่จะ
สนับสนุนให้ กสม. สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ที่ถูกละเมิดได้
อย่างดีที่สุดเท่าที่กฎหมายไทยเคยมี แต่ถูกยกเลิกไปในรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
3.2.1.3 หลักการข้อที่ว่า กสม. ต้องเป็นสถาบันที่บุคคลและคณะบุคคลทุกฝ่าย
สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยมีกฎเกณฑ์และกระบวนการทำงานที่ประชาชน
สามารถติดต่อยื่นคำร้องเรียนได้ อย่างสะดวกรวดเร็ว มีสำนักงานสาขาทุก
ภูมิภาคเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์ได้ทั่วประเทศ พบว่า หลักการข้อนี้ได้รับ
การปฏิบัติใน กสม. ชุดที่ 3 อย่างเป็นรูปธรรม เห็นได้จากการประสาน
ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ใน
ส่วนของการทำงานกับเครือข่ายภาคประชาชนอื่น ๆ พบว่า มีการ
เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรใน กสม. ชุดที่ 3 โดยเฉพาะเครือข่ายทางด้าน
สิทธิมนุษยชนทางการเมืองที่มีหลายเสียงสะท้อนให้เห็นว่า “ไม่มีการ
ทำงานร่วมกันเลย” ขณะที่เครือข่ายสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และ
วัฒนธรรมมีความร่วมมือกับภาคธุรกิจในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
3.2.1.4 หลักการปารีสอีกประการที่ต้องยึดหลักการความร่วมมือกับทุกฝ่ายตั้งแต่
สหประชาชาติ สถาบันสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคและระดับประเทศ
องค์การเอกชนหรือองค์การที่มิใช่ของรัฐ (NGO) ตลอดจนองค์การ
ระหว่างรัฐบาล (Intergovernmental Organizations) ที่มีหน้าที่ส่งเสริม
และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและกับหน่วยงานตุลาการ พบว่า ในการทำงาน
ของ กสม.ชุดที่ 1 มีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในระดับดีมาก เสียง
สะท้อนจากผู้ให้ข้อมูลยืนยันตรงกัน
3.2.1.5 สำหรับหลักการปฏิบัติในเรื่องการต้องยึดหลักประสิทธิภาพในเชิง
ปฏิบัติการ (Operational efficiency) โดยการจัดหาทรัพยากรที่เพียงพอ
วิธีการทำงานที่ไม่เป็นแบบราชการ บุคลากรมีความรู้ และความเข้าใจเรื่อง
สิทธิมนุษยชน พบว่า เสียงสะท้อนจากบุคลากรภายในสำนักงาน กสม. ที่
สะท้อนว่า ภายในองค์กรยังยึดติดกับวัฒนธรรมและการทำงานแบบ
องค์กรราชการค่อนข้างมาก บุคลากรบางส่วนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ
รวมถึงความเชี่ยวชาญและความแม่นยำในหลักการสิทธิมนุษยชน และ
ต้องการพัฒนาความรู้และทักษะในการทำงานเพื่อปกป้องส่งเสริม
สิทธิมนุษยชนเพิ่มเติม ยิ่งกว่านั้น ยังต้องการการสนับสนุนทรัพยากรและ
เครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้การทำงานมีความ
เหมาะสมกับปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น และสภาพการทำงานที่ต้องปรับให้
ทันกับเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละตัวชี้วัดขององค์กร
-9-