Page 16 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 16
เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ ส่งเสริมกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่
และระดมพลังภาคีเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชน
กสม. ชุดที่ 4 มีความพยายามที่จะรื้อฟื้นพลังในการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนใน
สังคมไทยด้วยการประสานความร่วมมือและขยายเครือข่ายคนทำงานเพิ่มขึ้นในรูปของ
การแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษา 6 ด้าน จำนวน 218 คน ตามประกาศลงวันที่ 6
กันยายน 2564 นอกจากนี้ยังมีการเปิดสำนักงาน กสม. สาขาในภูมิภาคเป็นแห่งแรกที่
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมทั้งได้ให้กรอบอัตรากำลัง
เบื้องต้น คือ เจ้าหน้าที่ 20 ราย แบ่งเป็น ข้าราชการ 17 ราย และพนักงานราชการ 3
ราย ปฏิบัติงานตามกลุ่มงานต่อไปนี้ (1) กลุ่มงานบริหาร (2) กลุ่มงานคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน และ (3) กลุ่มงานส่งเสริมและเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน และ
ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการและพนักงานราชการสังกัดสำนักงาน กสม. บางส่วนไปปฏิบัติ
หน้าที่ราชการ ณ สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคใต้ (ไทยโพสต์, 17 กุมภาพันธ์ 2565)
นับเป็นความพยายามในการขยายช่องทางในการเข้าถึงประชาชนเพื่อให้สามารถรับ
เรื่องร้องเรียนและทำงานร่วมกันกับภาคประชาชนได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
4. ปัญหา อุปสรรค ข้อท้าทาย
4.1 ความท้าทายทางสังคมและการเมือง
4.1.1 สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ บริบทความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่า
กับสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคในความเป็นมนุษย์ที่ยังมีข้อจำกัด
พร้อม ๆ กับเสถียรภาพทางการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตย
ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ทำให้แนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนและการมองเห็นคุณค่า
ความเป็นมนุษย์ที่มีความเห็นแตกต่างกัน ยังไม่ลงตัว สถานการณ์การละเมิด
สิทธิมนุษยชนจึงยังเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ท้า
ทายต่อสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยอยู่มาก แม้ว่าไทยจะได้ร่วมประกาศรับรอง
สิทธิมนุษยชนสากลไปแล้วตั้งแต่ปี 2491 เช่น มีเหตุการณ์การบังคับสูญหาย
ของหะยี สุหลง ในภาคใต้ของไทย การลอบสังหารผู้แทนราษฎรในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น
4.1.2 การเมืองแบ่งขั้วค่ายในช่วงปี 2548 – 2553 จากวิกฤตการเมืองแบบแบ่งฝ่าย
(polarization) ซึ่งเชื่อมโยงและส่งผลต่อการทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิ
เสรีภาพของประชาชนในทางการเมืองของกลไกต่าง ๆ
4.1.3 ผลพวงจากรัฐประหาร 2 ครั้ง คือ ปี 2549 และ ปี 2560 ซึ่งแต่ละครั้งส่งผล
กระทบต่อการทำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างมีนัยยะสำคัญ พิจารณา
เฉพาะสถิติการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลังการรัฐประหาร ปี 2557 เฉพาะกรณี
นโยบายการทวงคืนผืนป่าอย่างเดียว พบว่า มีประชาชนถูกละเมิดสิทธิในการ
ทำมาหากินและอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่ามากกว่า 46,000 คดี (ILAW, 2562) กรณี
มาตรา 112 มีผู้ถูกกล่าวหาราว 176 คนใน 186 คดี (ศูนย์ทนายความเพื่อ
สิทธิมนุษยชน, กุมภาพันธ์ 2565) ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี
รวมอยู่ในนั้นด้วยและเป็นประเด็นที่ กสม. ถูกคาดหวังว่า ควรมีบทบาทในการ
ปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง
ดังกล่าวได้
-12-