Page 8 - ประมวลข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้อง
P. 8
ประมวลข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระหว่าง ตุลาคม ๒๕๕๙ – ธันวาคม ๒๕๖๐
ต่อมา กระทรวงมหาดไทย เห็นว่า กฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการ
เยียวยาความเสียหายในปัจจุบัน มีความเหลื่อมล้ าและแตกต่างกัน หากจะด าเนินการปรับปรุงให้มี
หลักเกณฑ์กลางเป็นมาตรฐานเดียวกันตามข้อเสนอแนะของคณะกรรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งงชาตินั้น
มีความเหมาะสม และเห็นด้วยในหลักการของข้อเสนอแนะอื่น ๆ เกี่ยวกับการก าหนดให้มีรูปแบบการ
เยียวยาผู้เสียหายที่หลากหลายทั้งด้านการเงินและนอกเหนือจากด้านการเงิน รวมถึงการจัดให้มีกลไกต่าง ๆ
เพื่อให้การเยียวยามีประสิทธิภาพรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย และทั่วถึง
ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มีค าสั่งและมอบหมาย
ให้ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และมีผลการพิจารณาด าเนินการต่อมาคือ กรมบัญชีกลางจะมีการยกร่างระเบียบเพื่อให้ความช่วยเหลือ
กรณีชีวิตและร่างกาย โดยเทียบเคียงอัตราการให้ความช่วยเหลือจากพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัย
เนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓
และพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
ขณะเดียวกันส านักงานกิจการยุติธรรม ได้มีการศึกษากฎหมายต่างประเทศแล้วพบว่า ประเทศเยอรมนี
และประเทศชิลี มีการช่วยเหลือในรูปแบบของระเบียบวิธีปฏิบัติ แต่ไม่มีกฎหมายแต่อย่างใด หากมีความ
คืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป รายละเอียดอยู่ในข้อเสนอแนะฯ และเอกสารประกอบข้อเสนอแนะเรื่องที่ ๒
เรื่องที่ ๓
ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย กรณีค าสั่ง
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐ เรื่อง การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมาย
ว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของ
ประเทศ
ด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีค าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๓๑/๒๕๖๐ เรื่อง
การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ โดยมีสาระส าคัญ
ให้สามารถน าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้เพื่อประโยชน์ในกิจการอื่นนอกเหนือจากการท าเกษตรกรรมหรือ
กิจการที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องได้ ซึ่งการออกค าสั่งดังกล่าวมีผลเป็นการกระทบต่อเจตนารมณ์ของ
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่มีสาระส าคัญเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินท ากิน
ของเกษตรกร เนื่องจากที่ดินเป็นปัจจัยส าคัญและเป็นรากฐานเบื้องต้นของการผลิตทางเกษตรกรรม
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ค าสั่งดังกล่าวมีผลกระทบต่อ
หลักสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และกติการะหว่าง
๔