Page 38 - ประมวลข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้อง
P. 38
ประมวลข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระหว่าง ตุลาคม ๒๕๕๙ – ธันวาคม ๒๕๖๐
๔.๒.๓ การเยียวยาที่ไม่ล่าช้า
การเยียวยาที่มีความล่าช้าเท่ากับผู้เสียหายไม่ได้รับสิทธิในการเยียวยา ซึ่งที่
ผ่านมาการเยียวยาผู้เสียหายเกิดความล่าช้าจากสาเหตุต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมา รัฐจึงควรเร่งแก้ไขเพื่อให้
สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ตามข้อ ๑๑ หลักการพื้นฐานและ
แนวทางว่าด้วยสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาและชดใช้ความเสียหายฯ ขอให้รัฐมีการก าหนดระยะเวลาการ
เยียวยาในเวลาที่เหมาะสมด้วย
๕. ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและข้อเสนอในการ
แก้ไขปรับปรุงกฎหมาย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นควรมีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ
ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ
ค าสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗ (๓) ดังนี้
๕.๑ ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
๕.๑.๑ คณะรัฐมนตรี โดยส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวง
สาธารณสุข ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรร่วมกันพิจารณาก าหนดให้มี
หลักเกณฑ์กลางในการเยียวยาความเสียหายเพื่อให้เกิดมาตรฐานที่เท่าเทียมและเป็นธรรม
หลักเกณฑ์กลางดังกล่าวควรครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งหมายถึง ผู้ที่ได้รับความเสียหาย
ทุกประเภท ทุกกลุ่มจากกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับรัฐโดยตรงหรือโดยอ้อม
หรือจากการกระท าของเอกชนที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบายของรัฐ หรือจากการได้รับสัมปทาน หรือการได้รับ
อนุญาตจากรัฐหรือได้รับมอบหมายจากรัฐ ส่วนการเยียวยานั้น นอกจากเยียวยาผู้เสียหายแล้วจะต้อง
(๒) คู่กรณีที่แท้จริงมิได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาทางปกครองหรือได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาครั้ง
ก่อนแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรมในการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาทางปกครอง
(๓) เจ้าหน้าที่ไม่มีอ านาจที่จะท าค าสั่งทางปกครองในเรื่องนั้น
(๔) ถ้าค าสั่งทางปกครองได้ออกโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใดและต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย
นั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระส าคัญในทางที่จะเป็นประโยชน์แก่คู่กรณี
การยื่นค าขอตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) หรือ (๓) ให้กระท าได้เฉพาะเมื่อคู่กรณีไม่อาจทราบถึงเหตุนั้นในการพิจารณา
ครั้งที่แล้วมาก่อนโดยไม่ใช่ความผิดของผู้นั้น
การยื่นค าขอให้พิจารณาใหม่ต้องกระท าภายในเก้าสิบวันนับแต่ผู้นั้นได้รู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้พิจารณาใหม่ได้
๓๔