Page 259 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 259

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ






                              กฎหมาย                          การใช้ค�าที่มีความหมาย “เลือกปฏิบัติ”

             ระเบียบคณะกรรมกำรส่งเสริมและพัฒนำคุณภำพ      กำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
             ชีวิตคนพิกำรแห่งชำติ ว่ำด้วยหลักเกณฑ์ วิธีกำร

             และเงื่อนไขในกำรร้องขอ กำรรวบรวมพยำนหลักฐำน
             กำรไกล่เกลี่ย กำรวินิจฉัย และค่ำตอบแทนของ
             คณะอนุกรรมกำรหรือผู้ไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับกำรกระท�ำ

             ในลักษณะที่เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
             ต่อคนพิกำร พ.ศ. ๒๕๕๖

             พระรำชบัญญัติกำรจัดกำรศึกษำส�ำหรับคนพิกำร    กำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
             พ.ศ. ๒๕๕๑ (มำตรำ ๘)

             พระรำชบัญญัติคุ้มครองแรงงำน พ.ศ. ๒๕๔๑        ไม่เลือกปฏิบัติ

             (มำตรำ ๑๑/๑ มำตรำ ๘๙)
             พระรำชบัญญัติกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรตั้ง  ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

             ครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙



                       ดังนั้น จึงเห็นว่ำกำรใช้ค�ำ “กำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม” ในบริบทของกฎหมำยไทยมีลักษณะที่
          แตกต่ำงจำกกำรใช้ค�ำดังกล่ำวในประเทศที่มีกฎหมำยเกี่ยวกับกำรเลือกปฏิบัติเป็นกฎหมำยเฉพำะในลักษณะของ

          กฎหมำยกลำงที่ครอบคลุมกำรเลือกปฏิบัติในมิติต่ำง ๆ เช่น แคนำดำ ฟินแลนด์ สวีเดน เป็นต้น นอกจำกนี้ หำกเปรียบ
          เทียบกับกำรใช้ค�ำเกี่ยวกับ “กำรเลือกปฏิบัติ” ตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศภำยใต้กรอบสหประชำชำติ

          ดังที่ได้วิเครำะห์และจ�ำแนกตำมตำรำงดังกล่ำวข้ำงต้น จะเห็นได้ว่ำ กฎหมำยสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศมีกำรจ�ำแนก
          ระหว่ำงกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกัน (Differential Treatment หรือ Distinction) ซึ่งไม่ต้องห้ำมตำมกฎหมำย กับ “กำร
          เลือกปฏิบัติ” (Discrimination) ที่ต้องห้ำมตำมกฎหมำย โดยมิได้ใช้ค�ำว่ำ “กำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม” แต่อย่ำงไร

          เนื่องจำกหำกกำรปฏิบัติแตกต่ำงกันนั้นไม่อำจอ้ำงเหตุที่ชอบด้วยกฎหมำยแล้ว ก็จะถือว่ำเป็นกำร “เลือกปฏิบัติ” ซึ่งมี
          นัยที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมำยอยู่ในตัวเอง
                       ด้วยเหตุนี้ หำกไทยมีกำรบัญญัติกฎหมำยห้ำมเลือกปฏิบัติในลักษณะกฎหมำยกลำงดังเช่นประเทศต่ำง ๆ

          ที่มีกฎหมำยลักษณะนี้ ก็ควรจะมีกำรใช้ถ้อยค�ำให้สอดคล้องกับหลักกฎหมำยสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศและกฎหมำย
          ประเทศต่ำง ๆ เพื่อจ�ำแนกควำมแตกต่ำงระหว่ำง
                       (ก) กำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชนที่มีขอบเขตเฉพำะกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันอันเกี่ยว

          เนื่องจำกเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติต่ำง ๆ และ
                       (ข) กำรเลือกปฏิบัติในบริบทของกฎหมำยอื่น เช่น กฎหมำยปกครอง ซึ่งมีควำมหมำยกว้ำงกว่ำและ

          ไม่จ�ำกัดเฉพำะกำรปฏิบัติแตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติเท่ำนั้น











                                                        258
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264