Page 216 - รายงานศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยผังเมืองกับการคุ้มครองสิทธิชุมชนและสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน
P. 216
ผังเมืองกับก�รคุ้มครองสิทธิชุมชน
และสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน
ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาตรวจร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง
สาระสำาคัญเรื่องการกำาหนดประเภทที่ดินและข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินได้อีก
ประชาชนในพื้นที่อำาเภอหนองแซงและอำาเภอภาชี จังหวัดสระบุรี ยื่นฟ้องคณะกรรมการกำากับ
กิจการพลังงานกับพวกรวม 3 คน โดยอ้างเหตุการณ์การออกใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก
อาศัยฐานจากมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้นำาเสนอข้อเท็จจริงในส่วนที่เป็น
สาระสำาคัญ เช่น ไม่ได้นำาเสนอข้อเท็จจริงและข้อมูลเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินตามร่างผังเมืองรวมจังหวัด
สระบุรี และการพิจารณาออกใบอนุญาตขัดต่อกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 ออกตามความในพระราชบัญญัติ
โรงงาน พ.ศ. 2535 ข้อ 4 เนื่องจากบริเวณที่ตั้งโรงไฟฟ้าอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม
ตามร่างผังเมืองรวมจังหวัดสระบุรี อันเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของการวางผังเมือง โดยผู้ฟ้องคดีมีคำาขอให้
เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้า และให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการผู้ชำานาญการ
ที่ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการโรงไฟฟ้า
ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำาร้องขอให้ศาลกำาหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์
ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยขอให้ศาลมีคำาสั่งทุเลาการบังคับตามใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิต
ไฟฟ้า หรือระงับการดำาเนินการใดๆ ในพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าไว้เป็นการชั่วคราวก่อนศาลมีคำาพิพากษา
ความเห็นแย้งของตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะในการพิจารณาคดี ปรากฏในคำาสั่งทุเลาการบังคับตาม
กฎหรือคำาสั่งทางปกครอง หรือยกคำาขอทุเลาการบังคับ ตามกฎหรือคำาสั่งทางปกครองของตุลาการหัวหน้า
คณะศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ 126/2556 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2554
“ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเลขที่ (สขร. 5)
02-314/2553 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นการอนุญาตให้ประกอบกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า
กำาลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เห็นว่าร่างผังเมืองรวมจังหวัดสระบุรียังไม่มีผลบังคับใช้
แม้คณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบแล้ว จึงไม่นำามาประกอบการพิจารณาเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ทั้งที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2 ทราบว่าการกระทำาดังกล่าวขัดกับ
ข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามร่างผังเมืองรวมจังหวัดสระบุรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว
เห็นว่าภายใต้เจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองที่
กล่าวมา และโดยสภาพมติของคณะรัฐมนตรีมีสภาพเป็นกฎ ซึ่งมีลักษณะเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไป และผู้อยู่
ใต้บังคับบัญชาจะต้องปฏิบัติตาม การไม่ปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรีของข้าราชการพลเรือน หรือ
ข้าราชการฝ่ายบริหารอื่น เป็นความผิดทางวินัยโดยตรง ดังนั้น ตามหลักความรับผิดชอบในการปฏิบัติ
ราชการของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการบริหารราชการแผ่นดิน กรณีจึงมีปัญหา
การปฏิบัติราชการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2 ที่ไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีน่าจะไม่ชอบด้วย
กฎหมาย”
215