Page 179 - ศัพท์สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 179
หรือ “ชุมนุมโดยสงบ” เท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้หลักกฎหมาย
สิทธิมนุษยชน โดยนัยนี้ การชุมนุมที่ไม่ได้เป็นไปโดยสันติ การชุมนุมที่ก่อ
ความรุนแรง (Violence) ย่อมไม่ได้รับการคุ้มครอง
ตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่รับรองเสรีภาพในการชุมนุม
อย่างสงบกำาหนดเงื่อนไขการจำากัดเสรีภาพโดยชอบธรรมไว้ในทำานองเดียวกัน
คือ ต้องจำากัดโดยกฎหมายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ที่จำาเป็น
สำาหรับสังคมประชาธิปไตย และมาตรการจำากัดนั้นต้องมีความได้สัดส่วน
กับเสรีภาพที่ถูกจำากัด เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง
และสิทธิทางการเมืองกำาหนดว่า
“สิทธิในการชุมนุมโดยสงบย่อมได้รับการรับรอง การจำากัดการใช้สิทธินี้
จะกระทำามิได้นอกจากจะกำาหนดโดยกฎหมายและเพียงเท่าที่จำาเป็นสำาหรับ
สังคมประชาธิปไตย เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงของชาติ หรือความปลอดภัย
ความสงบเรียบร้อย การสาธารณสุข หรือศีลธรรมของประชาชน หรือการ
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น”
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทยได้รับรองเสรีภาพในการชุมนุม
และได้กำาหนดเงื่อนไขการจำากัดเสรีภาพไว้ทำานองเดียวกันกับหลักการนี้
ปัญหาสำาคัญประการหนึ่งในการคุ้มครองสิทธินี้คือ การพิจารณาว่า
การชุมนุมลักษณะใดที่ถือว่าเป็น “ความรุนแรง” เรื่องนี้มีหลักว่า “ความรุนแรง” นั้น
ต้องพิจารณาจากลักษณะของการชุมนุม มิใช่พิจารณาจาก “เนื้อหา” หรือ
“สาร” ที่ผู้ชุมนุมต้องการสะท้อนความคิดเห็น นอกจากนั้นมีหลักว่า การชุมนุม
โดยการใช้อาวุธ การชุมนุมที่มีเป้าหมายสร้างความเดือดร้อนรำาคาญแก่บุคคล
ที่ไม่ร่วมชุมนุมเพื่อบีบบังคับให้รัฐหรือองค์กรใดตอบสนองความต้องการ
ของกลุ่มผู้ชุมนุม การชุมนุมเพื่อปลุกปั่นให้มีความเกลียดชังขึ้นระหว่าง
กลุ่มชน เป็นการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง
การชุมนุมโดยสันติในที่สาธารณะเป็นเสรีภาพจึงไม่ต้องขออนุญาต
จากเจ้าพนักงานก่อน รัฐต้องให้ความคุ้มครองการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่เป็นการชุมนุมที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น จงใจขัดขวางการจราจร รัฐสามารถ
จำากัดการชุมนุมได้เพื่อให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมายได้ หรือการชุมนุมที่ก่อ
ความรุนแรง รัฐสามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความปลอดภัยของสังคม
168