Page 58 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 58
๔๓
๖๔
๒.๓.๒ การคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของผู้ต้องขัง
เมื่อพิจารณาวัตถุประสงค์ในการควบคุมและจ่ากัดอิสรภาพของผู้ต้องขังแล้วพบว่า
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการแก้ไขฟื้นฟูพฤติกรรมให้สามารถกลับเข้าสู่สังคมอย่างผู้ที่มีความ
รับผิดชอบ และไม่กระท่าความผิดซ้่าอีก นอกจากนั้น ผู้ต้องขังต้องมีชีวิตอยู่ในเรือนจ่าอย่างปกติสุขที่สุด
เท่าที่จะท่าได้ เพื่อมิให้เขาได้รับผลร้ายจากการต้องโทษจ่าคุกและสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ ดังนั้น การ
ควบคุมตัวผู้ต้องขังในเรือนจ่า จึงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง
ซึ่งมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในส่วนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิความเป็นอยู่ส่วนตัวของผู้ต้องขัง
ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีนั้น สรุปได้ ดังนี้
(๑) ที่พักอาศัยและอาหาร ผู้ต้องขังจะต้องท่างาน ได้รับการฝึกอาชีพ หรือการแก้ไข
ฟื้นฟู รวมทั้งการท่ากิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เว้นแต่ผู้ต้องขังที่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือตกอยู่ภายใต้
การบังคับในเรื่องระเบียบวินัย
ในเวลากลางคืนนักโทษจะอยู่ในห้องขังที่จัดไว้เฉพาะของตน และอาจมีสิ่งของส่วนตัว
ไว้ในห้องขังได้ ผู้ต้องขังอาจได้รับอนุญาตให้อยู่รวมกับผู้ต้องขังอื่นได้ ถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือ
หรือเพราะความจ่าเป็นทางสุขภาพ หรือไม่สามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อตนเอง
ผู้ต้องขังจะได้รับอาหารที่มีส่วนประกอบทางโภชนาการอย่างครบถ้วนโดยผ่านการ
ตรวจจากแพทย์วันละ ๓ มื้อ รวมทั้งอาจได้รับอาหารพิเศษ ถ้าได้รับค่าแนะน่าจากแพทย์ หรือการปฏิบัติ
ตามลัทธิทางศาสนา อย่างไรก็ตามกฎหมายอนุญาตให้ผู้ต้องขังซื้อหาอาหารและสิ่งของเครื่องใช้อย่างอื่น
ได้ด้วยเงินของตนเอง
ผู้ต้องขังจะได้รับเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่จ่าเป็นที่ทางเรือนจ่าจัดไว้ให้ รวมทั้งอาจขอ
เครื่องใช้ส่าหรับการท่าความสะอาดร่างกาย เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟันและหวี เป็นต้น
(๒) การเยี่ยม การติดต่อ และการลา
- ผู้ต้องขังมีสิทธิติดต่อกับบุคคลอื่นที่อยู่นอกเรือนจ่าได้ภายในขอบเขตที่กฎหมาย
ก่าหนดไว้ รวมทั้งได้รับการส่งเสริมให้ติดต่อกับผู้อยู่ข้างนอกเรือนจ่าเท่าที่จะท่าได้
- ผู้ต้องขังมีสิทธิได้รับการเยี่ยมเป็นประจ่า ระยะเวลาเยี่ยมอย่างน้อยเดือนละ ๑
ชั่วโมง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของเรือนจ่า
- การเยี่ยมนอกเหนือจากนี้ควรได้รับอนุญาตและส่งเสริมเท่าที่จะท่าได้ถ้าหากการ
เยี่ยมนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขง หรือการกลับเข้าสู่สังคม หรือการติดต่อย่างอื่นที่ไม่
อาจกระท่าได้ โดยทางจดหมาย
ส่วนการเยี่ยมของทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายหรือโนตารี จะต้องได้รับอนุญาต
จากเรือนจ่า
๖๔ โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิผู้ต้องหา จ่าเลย และผู้ต้องโทษในคดีอาญา ,อ้างแล้วเชิงอรรถที่ ๑๖