Page 138 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 138

วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา   137


                            จากที่กล่าวมาทั้งหมด ตัวละครทั้งสองได้สร้างมาตรฐานทางสังคมใหม่ขึ้นมา โดยใช้การสวมบทบาท
                     และการแสดงมาเป็นเครื่องมือที่ทําให้ทั้งสองสามารถเอาชนะกรอบทางสังคมที่กําหนดลักษณะตายตัวทาง

                     ชาติพันธุ์ และสามารถสร้างลักษณะใหม่ที่ไหลเลื่อน โดยปฏิเสธการถูกตีกรอบผ่านมายาคติของสังคมโดย
                     สิ้นเชิง การหลุดพ้นจาก “พันธนาการ”  ทางชาติพันธุ์เป็นวิธีการที่คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียสามารถใช้สร้าง
                     ความชอบธรรมไปต่อสู้กับวัฒนธรรมหลักที่พยายามสร้างความแตกต่างทางชาติพันธุ์โดยพยายามจะชี้ให้เห็น

                     ว่าความแตกต่างนั้นมีอยู่จริงในสังคม แต่ความเป็นจริงแล้ว ความแตกต่างทางชาติพันธุ์นั้นเป็นเพียงมายาคติที่
                     ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น ดังนั้นชื่อเรื่อง Bondage จึงเป็นทั้งสัญลักษณ์และอุปลักษณ์ของมายาคติที่รอการรื้อถอน


                     ทําลาย

                       สรุป

                            จากบทละครเรื่อง Bondage  จะเห็นได้ว่ามาร์กและเทอร์รีแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของมายาคติที่
                     ไหลวนอยู่ในสังคมมีส่วนในการกําหนดลักษณะทางชาติพันธุ์ แต่เมื่ออยู่ในบริบทของการแสดง หวังสามารถ

                     ชี้ให้เห็นว่า ชาติพันธุ์เป็นเพียงการแสดงอย่างหนึ่งซึ่งมีความลื่นไหลในตัวเอง ไม่สามารถที่จะสร้างเป็นภาพ
                     ตายตัวได้ การสร้างภาพตายตัวของชาติพันธุ์ก็เหมือนกับการยอมรับการครอบงําทางอุดมการณ์ของวัฒนธรรม

                     หลักในสังคม เช่นเดียวกับความเชื่อเรื่องเพศสถานะและเพศวิถี การที่ตัวละครทั้งสองสามารถที่จะแสดงความ
                     เป็นชาติพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างไม่จํากัดทําให้คําจัดความของคําว่าชาติพันธุ์กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสรุปได้ ใน
                     ฐานะชนกลุ่มน้อย หวังใช้การแสดงที่มีภาวะลื่นไหลของชาติพันธุ์ปลดปล่อยความเป็นอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

                     ของตนที่ถูกจองจําโดยรื้อถอนมายาคติที่ปรากฏในนาม “โครงสร้างทางประวัติศาสตร์ของชาติพันธุ์”  ได้อย่าง
                     น่าสนใจ

                            จากการทําความเข้าใจการรื้อสร้างชาติพันธุ์ใน Bondage ทําให้ผู้เขียนบทความหวนคิดถึงฟิลลิป เชง
                     ที่เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารที่บ้าน ฟิลลิปแสดงบทบาทเป็นคนผิวขาว ผ่านวัฒนธรรมการดื่มชาของคนอังกฤษ

                     และการรับประทานพาสต้า และดูเหมือนว่าเขาเพลิดเพลินกับบทบาทนั้น ผู้เขียนบทความคิดเลยไปไกลถึง
                     ขนาดที่ว่า เมื่อฟิลลิปกลับไปเยือน “เมืองแม่” เขาอาจเปลี่ยนจากการดื่มชาอังกฤษเป็นชาจีนได้อย่างไม่ขัดเขิน

                     และสามารถยืนยันอัตลักษณ์ตัวเองในแต่ละบริบทได้ เพราะชาติพันธุ์ใต้ “คอสตูม” ของเราทุกคนถูกรื้อถอน
                     และสร้างใหม่ได้อย่างไม่จํากัด


                     หมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่อง “ความฝันแบบอเมริกันในบทละครของ
                              นักประพันธ์อเมริกันเชื้อสายเอเชีย” โครงการวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก

                              คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2553
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143