Page 213 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 213
196 ภาษาเพศในสังคมไทย: อํานาจ สิทธิ และสุขภาวะทางเพศ
กระแสหลักของสังคมไทยที่อธิบายวา ผูชายมีแรงขับทางเพศซึ่งตองการการ
ปลดปลอยมากกวาผูหญิง หรือยกยองผูชายที่เจาชูวามีเสนหในเรื่องเพศ
ขณะเดียวกันกลับคอยควบคุมใหผูหญิงตองมีเพศสัมพันธอยูภายใตกรอบ
การแตงงานเพื่อการมีลูกเทานั้น ทําใหนัยของคําวา “ชู” ที่นํามาใชกับชายและ
หญิงแตกตางกันอยางมาก โดยผูหญิงที่ “มีชู” จะถูกประณามจากสังคม
มากกวาผูชายที่ “เปนชู” หลายเทา
คําตางๆ ที่ยกมากลาวถึงในที่นี้ อาจไมไดเปนคําที่มีนัยใกลเคียงกับ
คําวา “กิ๊ก” โดยตรง แตก็เปนคําที่เกี่ยวของกับระบบคิดของสังคมไทยในเรื่อง
รูปแบบความสัมพันธของคนในเชิงชูสาวซึ่งก็สะทอนใหเห็นวา นอกจากสังคมไทย
จะยอมรับ หรือมองเห็นแครูปแบบความสัมพันธในเชิงชูสาวระหวางคนตางเพศ
(คือชายกับหญิง) แลว ความสัมพันธที่ดียังควรตองเปนความสัมพันธที่เกิดมา
จากพื้นฐานของความรัก ที่จะนําไปสูการแตงงานในระบบผัวเดียวเมียเดียว
โดยไมมีเพศสัมพันธกอนแตงงาน และเปนความสัมพันธที่มีชวงเวลาเปน
ตัวแปรในการพัฒนาความสัมพันธดวย กลาวคือ ยิ่งคบกันนานเทาไรยิ่งดี
อยางไรก็ตามในความเปนจริง คนในสังคมจํานวนมากไมไดมีวิถีทางเพศ
หรือดําเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑความสัมพันธที่สังคมคาดหวังเสมอไป
หากเลือกที่จะมีวิถีชีวิตทางเพศตามความปรารถนาและความสุขแหงตนใน
ฐานะปจเจกบุคคล รูปแบบความสัมพันธในเชิงชูสาวของคนในสังคมจึงไมได
มีแตเฉพาะคนรักตางเพศซึ่งตองอยูภายใตกรอบการแตงงานแบบผัวเดียว
เมียเดียวเทานั้น แตยังมีคนที่รักใครชอบพอและมีเพศสัมพันธกับคนเพศเดียว
กัน คนที่ปฏิเสธการใชชีวิตคูภายใตกรอบของการแตงงาน คนที่พึงพอใจ
ที่จะมีเพศสัมพันธโดยไมตองการความรัก หรือไมตองการการแตงงาน
ไมตองการมีลูก ฯลฯ
การปรากฏขึ้นของคําวา “กิ๊ก” ซึ่งทุกวันนี้ไมไดจํากัดอยูแตเฉพาะแวดวง
ของวัยรุน แตไดขยายไปสูการรับรูของสังคมในวงกวางแทบทุกระดับ แทจริงแลว
ไมใชการเกิดขึ้นของพฤติกรรมใหม หรือรูปแบบความสัมพันธใหมแตอยางใด
เพียงแตที่ผานๆ มา ไมเคยมีคํานิยาม หรือคําจํากัดความใดฟงดูเปนกลางๆ
และไดรับความสนใจมากเทาคําวา “กิ๊ก” เมื่อมีคํานี้เกิดขึ้นพรอมกับคําอธิบาย
มลฤดี ลาพิมล