Page 139 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 139
122 ภาษาเพศในสังคมไทย: อํานาจ สิทธิ และสุขภาวะทางเพศ
ทางภาษาเหลานี้ยังถูกผลิตซ้ํามาเรื่อยๆ โดย “คนอื่น” ที่ไมใชคนในกลุม
ชายรักชายเอง ขณะที่กลุมชายรักชายเองไมนิยม หรือไมยินดีกับการใชคําทั้ง
สองคําดังกลาว ในทํานองเดียวกับที่คําวา “เขาประตูหลัง” “เขาขางหลัง”
“สอดใสทางทวารหนัก” ก็ลวนแลวแตเปนคําที่คนทั่วไปเรียกพฤติกรรม
การมีเพศสัมพันธของชายรักชาย ซึ่งสื่อถึงกิริยาการมีเพศสัมพันธ หรือคําวา
“ฟนดาบ” ที่สื่อถึงการที่อวัยวะเพศชายเหมือนกันมามีกิจกรรมกัน ในขณะที่
กลุมชายรักชายเองมักใชคําวา “ไดกัน” “มีเซ็กสกัน” “เอากัน” “เยกัน” เพื่อ
สื่อถึงการมีเพศสัมพันธระหวางกันเชนเดียวกับการมีเพศสัมพันธของเพศวิถี
กระแสหลัก ในขณะที่ “เก็บสบู” ที่เปนคําที่มาจากหนังฝรั่งเกี่ยวกับนักโทษชาย
ที่ทําสบูตกแลวกมตัวลงไปเก็บ ซึ่งเปนการสงสัญญาณใหทราบถึงความพรอมที่
จะมีความสัมพันธ เปนตน
ปฏิบัติการทางภาษาที่มากกวาพฤติกรรมทางเพศ
ความหมายและนัยของคําวา “ตุย” ซึ่งถูกสรางและสงผานทางปฏิบัติการ
ทางภาษาโดยสื่อ ซึ่งใหนัยของการมีเพศสัมพันธระหวางชายกับชายดวยกันวา
เปนเพศสัมพันธที่ผิดปกติ รุนแรง หรือเสี่ยงตอโรค ไมเพียงแตสงผลตอการรับรู
และจดจําภาพตัวแทนความเปนชายรักชายในสังคมไทยทั่วไปเทานั้น หากยังได
ประกอบสรางภาพตัวแทนบางอยาง รวมถึงถายทอดมายาคติในเรื่องเพศใหกับ
กลุมชายรักชายเองดวยเชนกัน กลาวคือ สังคมไทยมองวาการรักเพศเดียวกัน
นั้นไมใชสิ่งที่เปนธรรมชาติ หากแตเปนความผิดปกติ ผิดแปลก มุมมอง
เชนนี้ ถูกรองรับดวยมายาคติที่วาชายรักชายมัก “ปง” (ตองตาตองใจ) เร็ว
รักงาย เปลี่ยนคูบอยๆ มีเพศสัมพันธกับคนไดงายๆ เมื่อผนวกกับบริบททาง
สังคมที่มีการแพรระบาดของโรคเอดส กลุมชายรักชายจึงถูกจับตามองแบบ
เหมารวมวาเปนกลุมเสี่ยงที่สําคัญ และเปนกลุมประชากรเปาหมายที่ตองคอย
เฝาระวัง และตองรณรงคปองกัน ชายรักชายจึงมักถูกเรียกวา “รักรวมเพศ”
และถูกมองวาเปนผูมีพฤติกรรมสําสอนทางเพศ สิ่งเหลานี้ลวนแลวแต
เปนกระบวนการในการเบียดขับเพศวิถีแบบชายรักชายใหเปนชายขอบ และ
รณภูมิ สามัคคีคารมย