Page 116 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 116

สวนที่ 3 การปฏิบัติทางเพศ: เอากัน  99

                               ในเรื่องเพศนี้ไดถูกผลิตซ้ําแลวซ้ําเลา จนทําใหเกิดเปนภาพตัวแทนในดานลบ
                               ของเพศสัมพันธนอกกรอบขึ้น

                                     ภาพตัวแทนของรูปแบบเพศสัมพันธที่แฝงดวยอคติทางเพศ ไดแก การ
                               มองวาการมีเพศสัมพันธทางปาก ทางทวารหนัก กับอุปกรณ นอกบริบทของ

                               คูความสัมพันธลวนเปนไปเพื่อความสุข ความหฤหรรษเทานั้น จึงเปนเรื่องที่ไม
                               ชอบธรรม หรือไมควรกระทํา ดังนั้นสุขภาวะของคนที่มีเพศสัมพันธแบบนี้จึง
                               เกิดขึ้นยากยิ่งบนฐานคติของสังคมไทยปจจุบัน นอกจากนี้คนในสังคมยังถูกทํา

                               ใหเชื่อวา เพศสัมพันธนอกกรอบทั้งหลายเหลานี้เปนพฤติกรรมเสี่ยงที่นํามาซึ่ง
                               โรคติดตอทางเพศสัมพันธ และเอชไอวี/เอดส ทั้งที่ในความเปนจริงแลวนั้น การ

                               มีเพศสัมพันธทุกรูปแบบลวนนํามาซึ่งโรคติดตอทางเพศสัมพันธ และเอชไอวี/
                               เอดสไดทั้งสิ้น หากการมีเพศสัมพันธในแตละครั้งนั้นเปนเพศสัมพันธที่ไม
                               ปองกัน และไมปลอดภัย

                                     สําหรับการมีเพศสัมพันธในกลุมเยาวชนมักถูกมองวาเปนเพศสัมพันธ
                               ที่มีปญหา เพราะนํามาซึ่งการตั้งครรภที่ไมตองการ การทําแทง และการทําลาย

                               ศีลธรรมจรรยาของสังคม ทั้งที่มีตัวอยางใหเห็นแลววา หากการมีเพศสัมพันธ
                               ในแตละครั้งไมมีการปองกัน หรือเกิดจากการบังคับก็จะนํามาซึ่งปญหาเรื่อง
                               การตั้งครรภไมพึงประสงค และอาจนําไปสูการทําแทงที่สามารถเกิดขึ้นไดกับ

                               คนทุกวัย สวนในกรณีของการมีเพศสัมพันธนอกคูสมรส โดยเฉพาะกรณี
                               ที่สามีไปมีเพศสัมพันธกับผูหญิงอื่นแลวกลับมามีเพศสัมพันธกับภรรยาตนเอง

                               โดยไมปองกัน ก็นํามาซึ่งความเสี่ยงตอการไดรับเชื้อโรคติดตอทางเพศสัมพันธ
                               และเอชไอวี/เอดสในกลุมแมบานไดเชนกันดังที่มีตัวอยางใหเห็นแลวอยาง
                               มากมาย

                                     ทั้งหมดนี้หากมองเรื่องการเอากันผานมิติของสุขภาวะทางเพศแลว
                               ประเด็นสําคัญที่ควรละทิ้งคือมาตรฐานศีลธรรมจรรยา ความดีงามในเรื่องเพศ

                               แตควรตระหนักถึงบริบทของการมีเพศสัมพันธกันในครั้งนั้นๆ วาเปน
                               เพศสัมพันธที่ปลอดภัย ปองกัน ตองการ ยินยอมพรอมใจหรือไม นอกเหนือไป
                               จากมุมมองในเรื่องของการเติมเต็มซึ่งความปรารถนา ความสุข ความหฤหรรษ




                                                      รณภูมิ สามัคคีคารมย
   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121