Page 112 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 112
สวนที่ 3 การปฏิบัติทางเพศ: เอากัน 95
“ตีฉิ่ง” เปนคําศัพทเฉพาะที่คนทั่วไปใชเรียกการมีเพศสัมพันธของผูหญิง
ที่มีเพศสัมพันธกับเพศเดียวกัน “ตีฉิ่ง” มาจากคํากริยาการเลนเครื่องดนตรีไทย
ที่ใหจังหวะคือฉิ่ง ฉิ่งเปนเครื่องดนตรีไทยที่มีรูปทรงคลายถวยเล็กๆ ขนาดเทา
ฝามือ ทําดวยทองเหลือง “ตีฉิ่ง” ใชแทนการมีเพศสัมพันธของผูหญิงที่รัก
เพศเดียวกัน โดยเปรียบเทียบกับลักษณะการประกบกันของฉิ่งวาคลายการ
ประกบกันของอวัยวะเพศหญิง สังคมทั่วๆ ไปมีความรูสึกตอคําๆ นี้วาเปนคําที่
ใหอารมณสนุกสนาน หรือขบขัน แตสําหรับผูที่เปนหญิงรักหญิงเองแลว
กลับเห็นวา คําๆ นี้ใหความรูสึกของการเหยียดหยามใหหญิงรักหญิงกลายเปน
ตัวตลก หรือเปนตัวประหลาด
คําศัพทอีกคําหนึ่งซึ่งเปนคําเกาแกซึ่งเปนหลักฐานที่แสดงถึงความ
สัมพันธระหวางผูหญิงกับผูหญิงดวยกันมาตั้งแตในอดีต คือคําวา “เลนเพื่อน”
สําหรับคนทั่วไปคําๆ นี้มีนัยของการมีสัมพันธระหวางเพื่อนกัน เปนสัมพันธเพียง
เลนๆ สนุกสนาน ไมใชความสัมพันธที่ถาวร ปจจุบันมีผูนําคําๆ นี้มาใชในกลุม
สังคมชั้นสูงของสังคม เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อความหมายโดยตรงในเรื่องเพศ
ระหวางผูหญิงดวยกันเอง
ในภาษาไทยยังมีคําอีกหลายคําที่แสดงถึงการมีเพศสัมพันธในบริบท
ตางๆ กันไป เชน คําวา “มีเซ็กส” ซึ่งเปนคําที่มีความเปนทางการ มีความเปน
วิชาการ คําวา “เซ็กส” เปนคําทับศัพทจากคําในภาษาอังกฤษแตมีความหมาย
แตกตางจากคําในภาษาอังกฤษอยางมาก โดยในขณะที่คําวา Sex ในภาษา
อังกฤษหมายถึงเพศชายหรือหญิงที่จําแนกดวยสรีระ และเพศสัมพันธ แตคําวา
“เซ็กส” ในภาษาไทยจะหมายถึง “เพศสัมพันธ” มากกวา คนที่ใชคํานี้
สวนใหญเปนชนชั้นกลาง มีฐานะ และมีการศึกษา หรือแมกระทั่งกลุมวัยรุน
คําวา “สังวาส” เปนคําที่ยืมมาจากภาษาสันสกฤตมักใชในงานเขียนที่ให
ความรูสึกของความเกา โบราณ ผูที่ใชคํานี้มักเปนนักเขียน หรือคนรุนเกา คําวา
“สังวาส” อาจใชเดี่ยวๆ หรือผสมกับคําอื่นๆ ก็ได เชน “เสพสังวาส” ซึ่งจะทําให
คํานี้กลายเปนคําที่ดูมีความรวมสมัยมากกวาคําวา “สังวาส” เฉยๆ คําอื่นๆ
ที่ใหอารมณใกลเคียงกันและมีการใชกันคอนขางมาก ไดแก คําวา “เสพสม”
ซึ่งเปนคําที่มาจากชื่อคอลัมนตอบปญหาเพศในหนังสือพิมพรายวันฉบับหนึ่ง
ที่ไดรับความนิยมมายาวนานหลายสิบป คือ คอลัมน “เสพสมบมิสม”
รณภูมิ สามัคคีคารมย