Page 243 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 243
จากรายงานการตรวจสอบขอเท็จจริงของคณะทำงานฯ ตามคำสั่งแตงตั้งของจังหวัดกาญจนบุรี
ผูรองชี้แจงโตแยงสรุปวา เอกสารสรุปการใชที่ดินของราษฎรในแปลงสำรวจ CN 10 เนื้อหาที่ระบุไมตรงกับ
ขอเท็จจริง คือ เนื้อที่ที่ผูรองและครอบครัวครอบครองทำกินตามหลักฐานการเสียภาษี บำรุงทองที่ของผูรอง
และบุตร ๑๒๘ ไร แตในเอกสารระบุเพียง ๓๘ ไรเศษ สวนที่เอกสารระบุวาแปลงที่ดินของผูรอง “เปนเขต
ควบคุม” แตกตางจากรายอื่น ผูรองไมเขาใจในขอเท็จจริง เนื่องจากพื้นที่ของผูรองอยูติดกับที่ดินผูอื่นที่ระบุ
วาเปนเขตรับรองสิทธิ์ และผูครอบครองบางรายอยูติดกับที่ดินของผูรอง เชน บริษัท โลวเฮงหมง มีออก
เอกสาร น.ส.๓ และมีรายอื่นหลายรายครอบครองที่ดินบริเวณเดียวกัน แตผูรองกลับถูกดำเนินคดีรายเดียว
โดยรายชื่อบุคคลในแปลงสำรวจที่ CN 10 ตามเอกสารทั้ง ๑๘ ราย สามารถเปนพยานยืนยันวาผูรอง ทำกิน
มากอนประกาศเขตอุทยานแหงชาติฯ และกอนรายอื่นทั้งหมด ผูรองจึงเห็นวาไมไดรับความเปนธรรม และ
เจาหนาที่เลือกปฏิบัติกับผูรองเพียงรายเดียว
Û.Ú §”™’È·®ß¢ÕߺŸâ∂Ÿ°√âÕß
เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๙ คณะอนุกรรมการฯ ไดเชิญหัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค นาย
สวัสดิ์ อั้นเตง ผูถูกรอง ชี้แจงขอเท็จจริงที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายสวัสดิ์ อั้นเตง ไมไดเขารวม
ประชุม แตมีผูชวยหัวหนาอุทยานแหงชาตินายธวัชชัย สายชู และเจาหนาที่ที่รวมปฏิบัติการเปนผูชี้แจง และ
ในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ นายกมล นวลใย หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค คนปจจุบัน และเจาพนักงาน
ปาไมผูรับแจงการสำรวจการครอบครองที่ดินในเขตปาอุทยานแหงชาติไทรโยค (แบบ ทป.๔) ของผูรอง คือ
นายโสภณ สิริสิงห เจาพนักงานปาไม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ และนายสุธาสิน ลอยลม เจาพนักงาน
ปาไม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ ไดชี้แจงขอเท็จจริงตอคณะอนุกรรมการฯ ที่สำนักงานคณะกรรมการ-
สิทธิมนุษยชนแหงชาติ โดยไดชี้แจงขอเท็จจริงในประเด็นตางๆ ดังนี้
๑) การพิสูจนการครอบครองที่ดิน
๑.๑ นายโสภณ สิริสิงห เจาพนักงานปาไม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ และนายสุธาสิน ลอยลม
เจาพนักงานปาไม ผูรับแจงการสำรวจการครอบครองที่ดินในเขตปาอุทยานแหงชาติไทรโยค (แบบ ทป.๔)
ของผูรอง เมื่อป ๒๕๔๒ ชี้แจงโดยสรุปวา ไดเขาไปรับแจงสำรวจการครอบครองที่ดินบริเวณที่ผูรองรองเรียน
เมื่อป ๒๕๔๒ โดยไดรับคำสั่งจากปาไมเขตใหเขาไปสำรวจรวมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓
ปลัดอำเภอ และผูใหญบาน จึงไดประสานงานกับผูใหญบานหมูที่ ๕ และไดประชุมกับผูใหญบานและชาวบาน
โดยไดทำความเขาใจวาการสำรวจเพื่อรับแจงการครอบครองที่ดินเทานั้น ไมใชการมามอบที่ดินให โดยใน
กรณีของผูรอง ไดรับแจงวาครอบครองที่ทำกิน ๑๕๐ ไร ไดปลูกยาง มะมวง ขนุน มะนาว ปลูกเต็มพื้นที่มา
๓๐ กวาป โดยมีผูใหญหมู ๕ รับรอง จากนั้นไดเขาไปสำรวจพื้นที่เพื่อหาพิกัดในพื้นที่บางสวน จึงไดขอมูล
ตามที่บันทึกลงในแบบสำรวจ ทป.๔ และใหความเห็นวาควรเรงรัดสำรวจพิสูจนสิทธิตอไป ซึ่งเปนหนาที่ของ
เจาหนาที่อีกชุดหนึ่งที่จะเขาไปพิสูจนสิทธิสำรวจรังวัดตอไป
๑.๒ นายมนตรี แสงสวัสดิ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ เจาพนักงานผูสำรวจพิสูจนการครอบครอง
ที่ดินตามการแจงการครอบครองของผูรอง ไดชี้แจงขอเท็จจริงโดยสรุปวา ในการพิสูจนสิทธิการครอบครอง
ที่ดินของผูรองนั้น เมื่อคณะสำรวจการครอบครองที่ดินในพื้นที่ปา โดยชุดของนายโสภณ สิริสิงห เขาไปรับ
แจงการสำรวจครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแหงชาติไทรโยค เมื่อป พ.ศ.๒๕๔๒ แลว จากนั้นคณะของตน
จึงไดลงไปสำรวจการครอบครองจริง ตามมติคณะรัฐมนตรี ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๑ โดยแปลงของผูรอง
เสียงจากประชาชน
242 การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐