Page 241 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 241
Û. °“√™’È·®ß¢âÕ‡∑Á®®√‘ߥ⫬«“®“
Û.Ò §”™’È·®ß¢ÕßΩÉ“¬ºŸâ√âÕß
ผูรองไดชี้แจงขอเท็จจริงตอคณะอนุกรรมการฯ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๖ กันยายน
๒๕๔๙ และเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ สรุปประเด็นตางๆ ไดดังนี้
๑) การครอบครองที่ดิน และการพิสูจนการครอบครองที่ดิน
ผูรองและครอบครัวไดไปตั้งภูมิลำเนา และประกอบอาชีพดานการเกษตรเพาะปลูกพืชไร ตั้งแตป
พ.ศ.๒๕๑๒ โดยกอนและหลังที่ผูรองไดเขาไปอยูก็มีราษฎรรายอื่นเขาไปอยูรวมดวยในบริเวณที่ดินเขต
ดังกลาวจำนวนหลายครอบครัว และกระทรวงมหาดไทยไดประกาศยกฐานะชุมชนที่พวกผูรองอาศัยขึ้นเปน
หมูบาน มีผูใหญบานปกครอง ดูแลตามระเบียบของทางราชการมาไมนอยกวา ๓๐ ป ตลอดเวลาที่เขาไปอยู
อาศัย ผูรองไมเคยมีปญหาขัดแยงกับเจาหนาที่บานเมืองฝายใดทั้งสิ้น ในป พ.ศ.๒๕๔๐ ผูรองไดปลูกพืชไร
และพืชอื่น ในแปลงติดหลังบานพื้นที่ประมาณ ๕๐ ไร ตอมาป พ.ศ.๒๕๔๑ ผูรองไดแบงที่ดินใหบุตรรวม ๖
คน บุตรบางรายไดเขามาทำกิน แตตองทำงานรับจางดวย จึงมีที่ดินรกรางบางสวน และเมื่อมีมติคณะ
รัฐมนตรี ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ผูรองจึงไดแจงการครอบครองพื้นที่ตามแบบแจงการใชที่ดินของบุคคลใน
พื้นที่ปาไม (แบบ ทป.๔) ในแปลงสำรวจหมายเลข CN 10 โดยผูรองแจงการครอบครองพื้นที่ในพื้นที่ปาไม
๑ แปลง เนื้อที่ประมาณ ๑๕๐ ไร ไดที่ดินมาโดยการจับจอง เขาทำประโยชนในที่ดินเมื่อป พ.ศ.๒๕๑๑ โดย
ผูใหญบานหมูที่ ๕ เปนผูนำชุมชนรับรองขอมูล เจาหนาที่สำรวจ ๔ นาย คือนายโสภณ สิริสิงห เจาพนักงาน
ปาไม ๔, นายปฐมพงศ ราชเดิม ปลัดอำเภอ, นายสุธาสิน ลอยลม เจาพนักงานปาไม ๓ และนายพิทยา จตุรพัฒน
เจาพนักงานปาไม ๕ โดยระบุสภาพพื้นที่โซนซี ชั้นลุมน้ำ ๓ ลักษณะภูมิประเทศ ที่ราบ ความลาดชัน ๗
องศา สรุปความเห็นของเจาหนาที่มีการทำกินตอเนื่อง เห็นควรนำเสนอเขากิจกรรมเรงรัดพิสูจนสิทธิตอไป
จนป พ.ศ.๒๕๔๘ ผูรองไดเปลี่ยนแปลงพืชที่ปลูกเดิมจากสวนมะนาวและพืชอื่น มาปลูกยางพาราแทนในที่
ครอบครองในพื้นที่ประมาณ ๕๐ ไร และเปนเหตุเจาหนาที่อุทยานแหงชาติไทรโยคแจงจับกุมในเวลาตอมา
ผูรองเพิ่งรับทราบภายหลังวา ผูรองไดรับการสำรวจผอนผันใหทำกินจากการสำรวจพิสูจนการ
ครอบครองที่ดินของเจาหนาที่ เมื่อป พ.ศ.๒๕๔๔ จำนวน ๑ แปลง พื้นที่เพียง ๓๘ ไร จากที่แจง ทป.๔ ไว
๑๕๐ ไร ทั้งนี้ผูรองยืนยันวา การเขาไปพิสูจนการครอบครองที่ดินโดยเจาพนักงานปาไม นำโดยนายมนตรี
แสงสวัสดิ์ และมีผูใหญบานหมู ๕ นำชี้นั้น ผูรองและบุคคลในครอบครัวไมพบ เจาหนาที่คนใดเขาไปสำรวจ
ในพื้นที่ ไมเคยเห็นผูใหญ กำนัน เขาไปดูในพื้นที่ ไมเคยมีการประชุม และไมเคยไดรับแจงวาจะมีการเขามา
สำรวจมากอน ผูรองไมเคยไดรับแจงใหเขาไปนำชี้ และไมไดนำชี้ตามที่ไดแจงการครอบครองไว ๑๕๐ ไร แต
ในระยะที่เจาหนาที่อางวาไดเขาสำรวจฯ นั้น ผูรองไดแบงใหบุตรแลว บางคนทำกินดวย แตตองรับจางดวย
จึงมีที่รกรางบางสวน แตยืนยันวามีตนกลวย ตนมะมวง ตนไมอื่น ยังเปนหลักฐานยืนยันการทำกินไดตลอด
ขอบเขต
๒) การรื้อถอนทำลายตนยางของเจาหนาที่อุทยานแหงชาติ
เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๑๐ นาฬกา ไดมีเจาหนาที่อุทยานแหงชาติ
ไทรโยค ภายใตการนำของนายสวัสดิ์ อั้นเตง หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค นำกำลังไมนอยกวา ๕๐ คน
พรอมอาวุธปนยาวหลายกระบอก (ตามหลักฐานภาพถาย) ไดเขามายังบริเวณที่ปลูกยางพาราในแปลงที่ติด
กับบานพักอาศัย พื้นที่รวม ๔๘ ไร โดยเจาหนาที่บางคนไดแสดงกิริยาและกระทำในลักษณะขมขูใหผูรอง
เกิดความวิตกหวาดกลัว และไดถอนตนยางพาราที่ผูรองที่ไดปลูกไวในพื้นที่ ๔๘ ไร ไป ทั้งหมด ผูรองจึงได
เสียงจากประชาชน
240 การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐