Page 246 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 246

ชี้แจงวา ในการตรวจสอบขอเท็จจริงในแปลงตรวจยึด ๒ แปลง คือแปลง ๑๕ ไร กับ ๓๓ ไร พบวาสภาพ
               พื้นที่เปนที่ลาดเนินเขา ไมมีลักษณะการทำกิน มีการตัดเผาตนยางนาใหญมาก มีปาไผ มีดงกลวยปา มี
               ความลาดชันเกิน ๓๐ องศา มีลักษณะเปนปา จึงมีสภาพเปนพื้นที่บุกรุกขึ้นใหม ซึ่งเปนคนละแปลงกับที่ไปวัด
               สำรวจพิสูจนสิทธิเมื่อป ๒๕๔๔ และผอนผันใหทำกินไว จึงตรงกับที่อุทยานฯ ไทรโยคระบุวาแปลงตรวจยึด

               เปนปา จึงไมเกี่ยวกับพื้นที่แปลง ๓๘ ไร ที่สำรวจและผอนผันใหทำกิน และอยูนอกขอบเขตแปลงสำรวจ
               CN 10 ที่ไดสำรวจเมื่อป ๒๕๔๔
                      ๒.๔ นายวินิจ รักชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจังหวัดกาญจนบุรี ชี้แจงขอเท็จจริงใน
               ฐานะผูแทนผูวาราชการจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ โดยสรุปวาการรื้อถอน ยึดอาสิน
               ในพื้นที่ใดตามพระราชบัญญัติปาไม เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตอุทยานแหงชาติ มีตัวบทในการกำหนดให
               พนักงานปฏิบัติ ถือวาเปนคดีอาญา หากมีการเขาไปรองทุกขกลาวโทษตองถือวาเปนเขตที่ตองไดรับความ
               คุมครอง คือหากพบอาสิน ตองเขาไปดำเนินการตามลำดับ เชน ประกาศครั้งที่ ๑ เพื่อแจงใหเจาของปกปอง
               สิทธิ และแจงใหรื้อถอน ประกาศครั้งที่ ๒ ใหรื้อถอนภายในกำหนด และเมื่อไมรื้อถอน ใหพนักงานเจาหนาที่
               เขาไปดำเนินการได โดยไมตองรอศาลตัดสิน หากพิสูจนไดชัดเจนวาเปนเขตที่อยูในเขตอุทยานแหงชาติ

               โดยเปนการใหอำนาจทางปกครองที่ใหอำนาจพนักงานเจาหนาที่ แตมีกระบวนการในการดำเนินการตาม
               ลำดับ ถึงเขาไปดำเนินการในที่สุด
                      ในกรณีของผูรอง หากเปนการสำรวจตกหลนโดยความบกพรองของเจาหนาที่ ผูรองสามารถยื่น
               คำขอใหมีการพิสูจนสิทธิใหมได
                       ๒.๕ นายมาโนชน บุญยานันท หัวหนากลุมงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ
               และสิ่งแวดลอมจังหวัดกาญจนบุรี ชี้แจงวาตามมติคณะรัฐมนตรี ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๑ ระบุวาหากการ
               กระทำใดๆ อันเปนการบุกรุกพื้นที่ปาใหม และหรือขยายพื้นที่อยูอาศัยทำกินเพิ่มเติม หรือเปนการทำลาย

               กระทบกระเทือนตอการรักษาปาหรือสิ่งแวดลอม ใหดำเนินการกฎหมายโดยเฉียบขาด และเพื่อปองกันไมให
               มีการยึดถือครอบครองพื้นที่ ใหผูมีอำนาจหนาที่สั่งใหผูกระทำผิดออกจากพื้นที่ ทลาย รื้อถอน และหรือ
               ดำเนินการอื่นตามกฎหมาย ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี มีนัยยะสำคัญ ๒ อยาง คือ เรื่องการจัดการทรัพยากร
               ที่ดินใหมีการสำรวจและพิสูจนสิทธิ ที่ดินทำกินของราษฎร กับการหามไมใหมีการบุกรุกเพิ่มเติมใหม การดู
               วาการบุกรุกเพิ่มเติมใหม ในเบื้องตนดูตามแผนที่ภาพถายทางอากาศ ที่กรมปาไมใหมาเพื่อดูรองรอยการทำ
               ประโยชนเปนกลุม โดยจะวงเขตควบคุมไว
                      ๓) การเลือกปฏิบัติ
                      ๓.๑ นายกมล นวลใย หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค ชี้แจงวา การรับรองสิทธิรายอื่นในแปลง
               สำรวจ CN 10 แปลงสำรวจเดียวกันกับผูรอง เชนกรณี บริษัท โลวเฮงหมง ที่อยูในเขตรับรองสิทธิ์ และมี

               เอกสารสิทธิ น.ส.๓ ทั้งที่เปนเขตปา ๖๐% และหลายรายอยูในเขตรับรองสิทธิ์ แตไมมี น.ส.๓ นั้น จะเขาไป
               ตรวจสอบเพิ่มเติมตอไป แตในเบื้องตนเห็นวาการออก น.ส.๓ เปนกระบวนการตามพระราชบัญญัติที่ดินตาม
               ประมวลกฎหมายที่ดิน หลักปฏิบัติในการเขาไปสำรวจนั้น เจาหนาที่มีหนาที่เขาไปสำรวจเฉพาะในแปลง
               ครอบครองที่ไมมีเอกสารสิทธิในเขตควบคุมเทานั้น
                      อนึ่ง ในการชี้แจงเรื่องเอกสารสิทธิในที่ดินในเขตรับรองสิทธิ์ของผูรองรายอื่นตามลำดับที่ ๑๘ คือ
               นายทองทศ สถิตในธรรม ที่ระบุวาเนื้อที่ครองครอง ๒๓๓-๐-๐๖๙ ไรนั้น นายมนตรี แสงสวัสดิ์ เจาพนักงาน
               ปาไมสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ ผูลงนามสำเนาผลการตรวจสอบ เห็นวา ขอมูลเนื้อที่ครอบครองนาจะ


                                                                              เสียงจากประชาชน
                                                     “ที่ดินในเขตปาและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและปา”   245
   241   242   243   244   245   246   247   248   249   250   251