Page 245 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 245
๑.๕ นายมาโนชน บุญยานันท หัวหนากลุมงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอมจังหวัดกาญจนบุรี ชี้แจงวาในกรณีรองเรียนของผูรอง การแจงการครอบครองกับการพิสูจน
สิทธิ์ อาจเปนความเขาใจคลาดเคลื่อน ไมตรงกับขอเท็จจริงในพื้นที่ ซึ่งเปนเรื่องตองพิสูจนขอเท็จจริง แต
หากมีแปลงสำรวจตกหลน ขอใหผูรองยื่นคำรองขอสำรวจใหมกับศูนยดำรงธรรม หรือสำนักบริหารพื้นที่
อนุรักษที่ ๓ บานโปง หรือหากตกหลนในการยื่นขอกอนหนานั้น เมื่อป ๒๕๒๖ ใหไปยื่นขอสิทธิทำกิน
(ส.ท.ก.) เพิ่มได
๒) การรื้อถอนทำลายตนยางโดยเจาหนาที่อุทยานแหงชาติ นำโดยนายสวัสดิ์ อั้นเตง
๒.๑ นายธวัชชัย สายชู ผูชวยหัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยคชี้แจง ความเปนมาของอุทยานแหง
ชาติไทรโยค ที่ไดประกาศเปนพื้นที่อุทยานแหงชาติเมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๓ พื้นที่รวม ๓๑๒,๕๐๐ ไร
ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ และตำบลไทรโยค ตำบลวังกระแจะ ตำบลบองตี้ ตำบลลุมสุม
อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สวนการเขาไปรื้อถอนตนยางพาราของผูรองไดกระทำ เนื่องจากหนวยบิน
ไดบินสำรวจพบการแผวถางบุกรุกที่ในเขต หมูที่ ๕ จึงสำรวจภาคพื้นดินเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๘ พบ
รองรอยการบุกรุก ๒ แปลง ไมพบ ผูกระทำผิด จึงนำเรื่องสงพนักงานสอบสวนใหดำเนินการตามกฎหมาย
ตอมาอีก ๕ เดือน หนวยบินไดบินสำรวจ พบการแผวถางอีก จึงเขาไปตรวจสอบภาคพื้นดิน พบมีการปลูกกลา
ยางพารา ๑,๖๐๐ ตน ซึ่งตามพระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๒๒ ใหอำนาจพนักงาน
เจาหนาที่ทำลายสิ่งที่พบวากระทำผิดนั้น นายสวัสดิ์ อั้นเตง หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยคในขณะนั้น จึงมี
คำสั่งใหเพิกถอน รื้อถอนอาสิน โดยปดประกาศที่สถานีตำรวจภูธรไทรโยค มีกำหนดภายใน ๓๐ วัน ไมมีผูใด
มาแจงคัดคาน จึงใหดำเนินการรื้อถอนกลายางพารา ในวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๔๘ โดยใชกำลังประมาณ ๓๐
นาย และมีอาวุธดวยเนื่องจากผูรองมีมีด จอบ เสียม ซึ่งเปนอาวุธได ตอมาในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๘ จึง
ไดปลูกปาเฉลิมพระเกียรติตรงบริเวณที่ตรวจยึดนั้น
๒.๒ นายกมล นวลใย หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค ชี้แจงวา เพิ่งเขารับตำแหนงหัวหนาอุทยาน
แหงชาติไทรโยค เห็นวาการตรวจยึดแปลงของผูรอง เปนการปฏิบัติตามกระบวนการตามกฎหมายของ
เจาหนาที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ มาตรา ๒๑ ใหพนักงานเจาหนาที่ มีอำนาจออกคำสั่งให
ผูกระทำผิด ออกจากเขตอุทยานแหงชาติ หรืองดเวนการกระทำใดๆ ในเขตอุทยานแหงชาติ และตามมาตรา
๒๒ ในกรณีที่มีการฝาฝนพระราชบัญญัตินี้ เปนเหตุใหมีสิ่งปลูกสรางขึ้นใหมหรือมีสิ่งอื่นใดในอุทยานแหง
ชาติผิดไปจากสภาพเดิม ใหพนักงานเจาหนาที่มีอำนาจสั่งใหผูกระทำผิดทำลายหรือรื้อถอนสิ่งนั้นๆ ออกไป
ใหพนอุทยานแหงชาติหรือทำใหสิ่งนั้นๆ กลับคืนสูสภาพเดิม แลวแตกรณี ถาผูกระทำความผิดไมปฏิบัติตาม
หรือถาไมรูตัวผูกระทำความผิด หรือเพื่อปองกันหรือบรรเทาความเสียหายแกอุทยานแหงชาติ พนักงานเจาหนาที่
จะกระทำการดังกลาวแลวอยางใดอยางหนึ่งเสียเองก็ไดตามสมควรแกกรณี และผูกระทำความผิดมีหนาที่
ชดใชคาใชจาย ที่ตองเสียไปในการที่พนักงานเจาหนาที่กระทำการเสียเองนั้น
นอกจากนั้นเมื่อพิจารณาภาพถายแลว พบวาพื้นที่ที่ทำการตรวจยึดขณะนั้น มีสภาพเปนปาไผ มี
ตนยางนา มีตอไม ไมไดทำกิน ไมมีอาสิน มีตนยางที่เพิ่งปลูกอายุไมเกิน ๑ เดือน และภาพพื้นที่จริงเปน
ภาพจากการตรวจสอบภาคพื้นดิน ซึ่งตรงกับภาพถายทางอากาศ
๒.๓ นายมนตรี แสงสวัสดิ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๓ เจาพนักงานปาไม ผูลงนามสำเนาเอกสาร
ที่แนบมากับสำเนาหนังสือแจงความคืบหนาจากคณะทำงานแกไขปญหาฯ ตามคำสั่งจังหวัดที่ ๖๓๗/๒๕๔๙
เสียงจากประชาชน
244 การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐