Page 97 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 97
โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 39
6) อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระท าอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่
ย่ ายีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or
Punishment หรือ CAT) ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550 และมีผลใช้
58
บังคับกับไทยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 ในเนื้อหาของอนุสัญญาฉบับนี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการระงับ
และยับยั้งการทรมาน โดยในเนื้อหาของอนุสัญญาดังกล่าวได้ก าหนดความหมายของ การทรมาน ว่าหมายถึง
การกระท าใดก็ตามโดยเจตนาที่ท าให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส ไม่ว่าทางกายภาพ
หรือทางจิตใจต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ด้วยความมุ่งประสงค์ เพื่อให้ข้อสนเทศหรือค าสารภาพจากบุคคลนั้นหรือ
บุคคลที่สาม การลงโทษบุคคลนั้นส าหรับการกระท าซึ่งบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามกระท า หรือถูกสงสัยว่าได้
กระท า รวมทั้งการบังคับขู่เข็ญ โดยมุ่งเน้นไปที่การกระท าหรือโดยความยินยอมของเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่น
ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในต าแหน่งทางการ
7) อนุสัญ ญ าว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with
Disabilities หรือ CRPD) ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 และ
มีผลใช้บังคับกับไทยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2551 อนุสัญญาฉบับนี้เน้นไปที่การขจัดอุปสรรคจากภายนอก
ซึ่งเป็นสาเหตุส าคัญของความยากล าบากในการด าเนินชีวิตของผู้พิการ ตลอดจนการแก้ไขความเสียเปรียบทาง
สังคมของคนพิการ ซึ่งก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และขัดขวางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็น
อย่างยิ่ง
ทั้งนี้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ ได้ระบุถึง “ผู้สูงอายุ” ที่ต้องไม่ถูกเลือกปฏิบัติและ
ค านึงถึงความเท่าเทียมกันไว้ในข้อที่ 25 (b) ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ และข้อ 28 (2) (b) เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
มาตรฐานความเป็นอยู่ที่เพียงพอและการประกันสังคม และการระบุถึงอายุที่เหมาะสมในการเข้าถึงความ
ยุติธรรมในข้อ 13 และมาตรการในการป้องกันการถูกแสวงหาประโยชน์ การใช้ความรุนแรงและการล่วงละเมิด
ในข้อ 16
8) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
(International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance หรือ
CED) ประเทศไทยลงนามแล้ว เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 และอยู่ระหว่างการด าเนินการเพื่อให้สัตยาบันเข้า
เป็นภาคี
58 ประเทศไทยมีค าแถลงตีความ ข้อ 1 เรื่องค านิยามของค าว่า "การทรมาน" ข้อ 4 เรื่องการก าหนดให้การทรมานทั้ง
ปวงเป็นความผิดที่ลงโทษได้ตามกฎหมายอาญา และข้อ 5 เรื่องให้รัฐภาคีด าเนินมาตรการต่าง ๆ ที่อาจจ าเป็นเพื่อให้ตนมีเขต
อ านาจเหนือความผิดที่อ้างถึงตามข้อที่ 4 ขออนุสัญญา โดยทั้งสามข้อให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญาของไทยที่ใช้บังคับ
อยู่ใน ปัจจุบัน และประเทศไทยมีข้อสงวน ข้อที่ 30 วรรคหนึ่ง โดยประเทศไทยไม่รับผูกพันตามข้อบทดังกล่าว (ซึ่งระบุให้น า
ข้อพิพาทเกี่ยวกับการตีความหรือการน าอนุสัญญาฯ ไปใช้ ขึ้นสู่การวินิจฉัยชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้หาก
คู่พิพาทฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งร้องขอ) ซึ่งการจัดท าข้อสงวนในข้อนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ยอมรับอ านาจของศาล ยุติธรรมระหว่าง
ประเทศเป็นการล่วงหน้า เว้นเสียแต่ว่าจะพิจารณาเห็นสมควรเป็นกรณี ๆ ไป.