Page 408 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 408
350 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
20-30 ปีข้างหน้าต้องเพิ่มเตียงให้ได้ประมาณ 90,000 เตียงส าหรับการเตรียมรับมือผู้สูงอายุ ผนวกกับต้องลด
การป่วยในผู้สูงอายุ เพิ่มความแข็งแรง เพราะปัจจุบันคนในสังคมแก่เร็วเกินไปท าให้เกิดภาระการพึ่งพิงในระยะ
ยาว ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งด้านอาชีพ กิจกรรม สิ่งแวดล้อม และที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้
จ านวนอุบัติเหตุลดลง สุขภาพดีขึ้น ถ้าผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุมักส่งผลที่รุนแรงกว่าคนทั่วไป ดังนั้น มาตรการที่
ควรปรับปรุง คือ
1. ร่างกายต้องแข็งแรง ต้องเดิน หรือมีกิจกรรมให้ร่างกายชินกับการเดิน
2. ต้องมีอุปกรณ์อ านวยความสะดวก หรือที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
3. ต้องลดการนอนโรงพยาบาล โดยจัดให้มีทีมบริการไปเยี่ยมบ้าน เป็นลดการการตั้งรับและเพิ่ม
มาตรการเชิงรุก ตลอดจนสิทธิในการปฏิเสธการรักษาในวาระสุดท้ายของชีวิตไม่ควรยื้อแต่รักษาไปตามอาการ
เพื่อไม่ให้ทรมานและปล่อยไปตามธรรมชาติ ส่วนเรื่องการท าการุณยฆาตเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งอาจจะต้องมี
การทบทวน
กลุ่ม Preventive long term care ต้องได้รับการส่งเสริมมากขึ้น โดยพัฒนาควบคู่กับมิติทางการเงิน
สุขภาพกับการเงินเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้และเป็นส่วนประกอบซึ่งกันและกันที่ส าคัญมาก จึงต้องสร้างระบบ
สุขภาพที่มีความชัดเจนในการจ่ายเงิน เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทราบและกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ
นอกจากนี้ ต้องสร้างองค์ความรู้ควบคู้กับการสอนวิธีค้นหาความรู้ ยุคดิจิตอลในปัจจุบันข้อมูลไม่ใช่เรื่องยาก
การหาทางเรียนรู้ด้วยตนเองจะช่วยเสริมสร้างสังคมแห่งสุขภาพได้มากขึ้น
ระบบ Intermediate care ของประเทศไทยยังอ่อนแอเนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน เดิมเป็นการข้าม
ขั้นจาก Acute care สู่ Long term care กล่าวคือ ถ้ารักษาแล้วในบางรายที่ไม่น่าเป็นห่วงก็จ าหน่ายกลับไป
พักฟื้นที่บ้าน เพราะเตียงผู้ป่วยต้องหมุนเวียนเสมอเนื่องจากไม่เพียงพอ แต่ในกรณีผู้สูงอายุเมื่อรักษาแล้วต้อง
เฝ้าดูอาการ ตลอดจนแนะน าวิธีการดูแลตนเองแก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อลดการกลับเข้ามารักษาตัวใหม่ ดังนั้น
ภายหลังการรักษาแบบ acute care ผู้ป่วยจะต้องเฝ้าระวังจะถูกส่งตัวไปที่ รพ.สต. หรือโรงพยาบาลชุมชนเพื่อ
ดูแล และแนะน าแก่ญาติตามที่กล่าวในข้างต้น ก่อนส่งผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้าน
ประเด็นที่ 5 ระบบการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในต่างประเทศที่มีความน่าสนใจ
น ามาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาระบบของไทยได้
ประเทศออสเตรียมีแผนดูแลสุขภาพทั้งหมด 2 แบบ คือ national health care และ national
disability care จะมีการก าหนดความจ าเป็นของการเบิกจ่ายเงินตามความเป็นจริง ตามรายเฉพาะบุคคล
ไม่ใช่ระบบเหมาจ่าย โดยรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ให้ โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญในการ
ประเมิน ใช้พื้นที่เป็นฐาน มีอาสาสมัครมาช่วย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับประเทศไทยแต่ดีกว่ามาก
ในเกาะไต้หวัน ซึ่งมีประชากรไม่มากใช้ระบบฉือจี้ คือ ระบบจิตอาสา และการระดมทุน
ประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายผู้สูงอายุและทุกคนเข้าระบบออมเงินก่อนเกษียณ คือ ระบบประกันการดูแล
ระยะยาว (Long-term Care Insurance System) เมื่อเก็บเงินมาได้และถึงคราวที่ต้องใช้บริการก็จ่ายเงิน
เพียงแค่ 10% ส่วนที่เหลือน ามาจากกองทุนผู้สูงอายุที่ออมกับกองทุนไว้ตั้งแต่วัยท างานตามเกณฑ์ที่กฎหมาย