Page 405 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 405

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 347

                     ประเด็นที่ 1 ความเหมาะสมของระบบบริการสุขภาพของไทยกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ

                     ปัจจุบันการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนมีพัฒนาการในทิศทางที่ดีขึ้น จากเดิมมีการ
               แบ่งผู้สูงอายุออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มติดสังคม (ดูแลตัวเองได้) กลุ่มติดบ้าน (ดูแลตัวเองได้บ้าง) และกลุ่มติด
               เตียง (ต้องมีผู้ดูแล) และแบบใหม่เปลี่ยนแปลงโดยจัดกลุ่มใหม่และใช้ระบบการดูแลแบบไร้รอยต่อ (seamless
               care) เป็นฐานซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มดังนี้
                     กลุ่มที่ 1 Preventive long term care ได้แก่ วัยแรงงานตอนปลาย (Pre-aging) กลุ่มนี้จะต้อง

               เตรียมตัวเป็นผู้สูงอายุในอนาคตอย่างจริงจัง ต้องรู้ว่าตนต้องตระเตรียมอะไรบ้าง ต้องรับการคัดกรองโรค
               ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการป่วย และส่งเสริมองค์ความรอบรู้ทางสุขภาพ (Health literacy)
                     กลุ่มที่ 2 Acute care กลุ่มที่มีอาการป่วย กลุ่มนี้ดูแลรักษาโดยหน่วยพยาบาลของกระทรวง

               สาธารณสุขทั่วประเทศ เช่น โรงพยาบาลจังหวัด มีประมาณ 83 แห่ง รพ.สต. มีประมาณ 9781 แห่ง
               โรงพยาบาลระดับชุมชน มีประมาณ 783 แห่ง และ ศูนย์เชี่ยวชาญผู้สูงอายุ มีประมาณ 34 แห่ง
                     กลุ่มที่ 3 Intermediate care กลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลระยะกลาง ภายหลังกลุ่ม Acute care เมื่อ
               ได้รับการรักษาแล้ว โดยปกติจะจ าหน่วยผู้ป่วยกลับบ้าน แต่กรณีผู้สูงอายุไม่เหมือนวัยอื่น การจ าหน่ายกลับ
               บ้านมีความล าบาก บางรายยังต้องมีสายน้ าเกลือ หรือสายออกซิเจน หากสภาพแวดล้อมของบ้านไม่พร้อมต่อ

               การน าผู้ป่วยไปพักฟื้น ก็อาจมีเหตุให้ต้องกลับมารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งท าให้ผู้สูงอายุขาดคุณภาพชีวิต
               ที่ดี ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีระบบดูแลแบบ Intermediate care กระทรวงสาธารณสุขจึงเร่งพัฒนาระบบ
               บุคลากร โดยออกมาตรการให้ รพ.สต. หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในชุมชน ร่วมดูแลผู้ป่วยจากกลุ่ม

               acute care แนะน าวิธีการดูแลทั้งตัวผู้ป่วยและญาติ ก่อนส่งกลับไปพักฟื้นที่บ้าน
                     กลุ่มที่ 4 Long term care หลังจากผ่านการดูแลระยะกลางผู้ป่วยจะได้รับการพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งเป็น
               ระบบดูแลระยะยาวในชุมชนใช้รูปแบบการท างาน 3c คือ Care manager, care giver, และ care เข้าไปวาง
               ระบบการดูแลในชุมชนแบบ Community care
                     กลุ่มที่ 5 Palliative Care การดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยสามารถอยู่กับความเจ็บป่วย

               ได้อย่างมีความสุขที่สุดและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าจนวาระสุดท้าย
                     นอกจากนี้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็พัฒนาตามยุคสมัย ปัจจุบันเครื่องมีทางการแพทย์มีคุณภาพ
               มากขึ้นการรักษามีความปลอดภัยมากขึ้น อุปกรณ์กระจายไปทั่วประเทศได้มากกว่าเดิม ทั้งนี้มีระบบบริการ

               ฉุกเฉินของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669 ท างานร่วมกับ care giver อสม. ให้คนเหล่านี้ค้นหาว่ามีผู้
               มีสูงอายุในชุมชนหรืออยู่บ้านใดบ้าง มีอาการป่วยอะไร ซึ่งจะเชื่อมต่อข้อมูลไปยัง รพ.สต. และใน 1 ต าบลจะมี
               หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน (ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด) ข้อมูลของ รพ.สต. จะเชื่อมต่อกับหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินใน
               ต าบล เมื่อผู้สูงอายุเกิดภาวะฉุกเฉิน ญาติ หรือ care giver หรือ อสม. สามารถแจ้งหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน
               ต าบลหรือเบอร์ 1669 เส้นทางของ 1669 จะไปเข้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุจังหวัดซึ่งมีจังหวัดละ 1 จุด และจะส่ง

               ต่อไปยังหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินที่ใกล้กับที่เกิดเหตุ โดยมีเป้าหมายในการเข้าที่เกิดเหตุให้ได้ภายใน 8 นาที
               และรีบไปส่งยังห้องฉุกเฉินของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเป็นอันเสร็จภารกิจของหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน และ
               เมื่อผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย ภายใน 72 ชม. ผู้ป่วยจะถูกย้ายไปยังสถานพยาบาลที่ตนเองมีสิทธิรักษา หน่วย
   400   401   402   403   404   405   406   407   408   409   410