Page 185 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 185

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 127

               ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960s โดยกระทรวงแรงงานในปี 1965 ได้ร่างรายงานเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติต่ออายุใน

               ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งได้กลายเป็นฐานของกฎหมายของรัฐบาลกลางในเวลาต่อมาที่เรียกว่า กฎหมายรัฐบาลกลาง
               ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติต่ออายุในการจ้างงาน 1967 (the 1967 Federal Age Discrimination in Employment
               Act - ADEA)
                         กฎหมาย ADEA คุ้มครองคนงานและคนที่มีศักยภาพในการเข้าท างานจากการเลือกปฏิบัติบน

               ฐานของอายุในแง่ของ การรับเข้าท างาน การปลดออกจากงาน และเงื่อนไขอื่น ๆ ในการจ้างงาน นอกจาก
               ADEA ของรัฐบาลกลาง มลรัฐแต่รัฐจะมีการก าหนดกฎหมายรัฐในการคุ้มครองคนงานจากการเลือกปฏิบัติต่อ
               อายุ ที่มีความเข้มข้นในการใช้แตกต่างไปจากกฎหมายกลาง
                                                         154

                         (1) สาระส าคัญของกฎหมาย ADEA
                         กฎหมายต้นฉบับจากรัฐบาลกลางปี 1967 เป็นการคุ้มครองคนงานอายุ 40 ปีถึง 65 ปี และ
               อนุญาตให้มีการเกษียณภาคบังคับ (mandatory retirement) และพฤติกรรมในการเลือกปฏิบัติอื่น ๆ หลัง

               อายุ 65 ปี ในปี 1978 กฎหมายได้ขยายอายุในการคุ้มครองเป็น 40 ถึง 70 ปี และในปี 1986 ได้ยกเลิกเพดาน
               อายุขั้นสูงที่จะปกป้อง (คือ อายุ 70 ปี)  นอกจากนั้น ในปี 1978 กฎหมายยังอนุญาตสิทธิในการพิจารณาใน
               ศาล และในปี 1979 กระทรวงแรงงานได้โอนอ านาจการบังคับใช้กฎหมายให้แก่คณะกรรมการโอกาสในการ
               จ้างงานอย่างเสมอภาค [the Equal Employment Opportunity Commission (EEOC)] ทั้งสองเหตุการณ์
               ตั้งแต่ปี 1978 ต่างท าให้การบังคับใช้ ADEA เข้มงวดขึ้น

                         กฎหมายนี้มีข้อยกเว้นบางประการ คือ การยินยอมให้การเกษียณภาคบังคับค่อย ๆ ยกเลิกไป
               ภายในปี 1993 ส าหรับคนงานที่ท างานประจ า (jobs with tenure) เช่น อาจารย์ในมหาวิทยาลัย และ ADEA
               ครอบคลุมคนงานในสถานประกอบการที่มีคนงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ในขณะที่กฎหมายสิทธิพลเมือง (1964)
               [Civil Rights Act (1964)] มีความเข้มงวดกว่าในการคุ้มครองคนงานในสถานประกอบการที่มีคนงานตั้งแต่ 15

               คนขึ้นไปจากการเลือกปฏิบัติต่อเชื้อชาติ เพศ ชาติพันธุ์ (national origin) หรือศาสนา แต่ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับ
               การเลือกปฏิบัติต่อ อายุ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ADEA จึงเป็นกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในการท างาน
               โดยเฉพาะในทุกขั้นตอนของการจ้างงาน รวมทั้งการเกษียณงานตามความสมัครใจ
                         นอกจากนั้น ภายใต้ ADEA นายจ้างได้รับอนุญาตให้มีการเลือกปฏิบัติต่ออายุได้ในการพิจารณา

               ตัดสินการจ้างงานในกรณีของการก าหนดคุณสมบัติทางอาชีพด้วยความสุจริตใจ (a “Bona Fide Occupational
               Qualification” หรือ BFOQ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอายุ ตัวอย่างเช่น ต าแหน่งงานในการแสดง ในทางปฏิบัติ
               นั้น ศาลจะอนุญาตให้ อายุ เป็น การเลือกปฏิบัติด้วยความสุจริตใจในกรณีที่ อายุมีผลกระทบต่อความ
               ปลอดภัยสาธารณะ รวมถึงอาชีพ เช่น นักบิน ผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ หรือคนขับรถบัส กฎหมายรัฐบาล

               กลางยังให้ยกเว้นส าหรับต าแหน่งงานที่ก าหนดนโยบายระดับเงินเดือนสูง (เช่น CEO) จากการเลือกปฏิบัติ
               ต่ออายุ


                    154 ส รุ ป จ า ก  “International Comparison of Age Discrimination Laws,” by Joanna N. Lahey, 2010,
               Research on Aging. August 27, Retrieve from https://www.ncbi.nim.nih.gov/pmc/articles/PMC4154604
   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189   190