Page 60 - วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)
P. 60

ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)  59






                        อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของไทย ให้ความสำาคัญ

               กับความจริงหรือเท็จของข้อมูล ดังจะเห็นได้จาก องค์ประกอบความผิด “ปลอม เท็จ บิดเบือน” ในมาตรา 14 (1)

               และ “เท็จ” ในมาตรา 14 (2) จากหลักกฎหมายประกอบกับการตีความและการสื่อสารในเชิงนโยบายรัฐ  ส่งผล
                                                                                         57
               ในลักษณะเหมารวม (Generalization) ว่าการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเป็นความผิด หากเปรียบเทียบกับแนวคำาพิพากษา

               ศาลต่างประเทศ ผู้เขียนเห็นว่า ควรแยกการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเป็นสองกรณี คือ กรณีที่หนึ่ง การเผยแพร่ข้อมูล

               เท็จ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้อื่นทราบถึงการมีอยู่ของข้อมูลดังกล่าวอันนำาไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบ
               ถึงความถูกต้องแท้จริงของข้อมูลนั้นต่อไป หรือเป็นการแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่าข้อมูลนั้นเป็นเท็จ กรณีนี้จัดเป็น

               การกระทำาที่นำาไปสู่กระบวนการคัดกรองข้อมูลของสาธารณะในสังคมประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง กรณีที่สอง การเผยแพร่
               ข้อมูลเท็จโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกลวงผู้อื่น หรือนำาไปใช้แสวงประโยชน์ เช่น การฉ้อโกงประชาชน

               ในลักษณะแผนหลอกลวง (Scamming) เมื่อพิจารณาฐานความผิดตามมาตรา 14 จะเห็นได้ว่า กรณีที่เข้า

               องค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายในของมาตรา 14 คือ กรณีที่สอง สำาหรับกรณีที่หนึ่ง  อาจเกี่ยวกับ
               มาตรา 14 (1) และ (2) โดยทั้งสองอนุมาตราไม่ได้กำาหนดองค์ประกอบเกี่ยวกับเจตนาพิเศษหรือมูลเหตุจูงใจไว้

               ดังนั้น หากผู้กระทำามีเจตนาธรรมดา คือ ทราบถึงข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด โดยรู้ว่าข้อมูลนั้น
               เป็นเท็จ ก็สามารถเข้าองค์ประกอบความผิดได้ ทำาให้มีโอกาสที่ผู้เผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวจะถูกตั้งข้อหาในชั้น

               สอบสวนซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ หากเทียบกับคำาพิพากษาศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปข้างต้นจะพบว่า กฎหมาย

               ที่กำาหนดความผิดสำาหรับพฤติกรรมกรณีที่หนึ่ง กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า
               ความกว้างขององค์ประกอบความผิดและการให้นำ้าหนักกับปัจจัยด้านความจริงหรือเท็จของข้อมูล ทำาให้

               ฐานความผิดหลายมาตราส่งผลจำากัดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยเหมารวม อันเป็นการจำากัดเสรีภาพในการวิพากษ์

               วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเท็จ


                  6     ผลกระทบ “Chilling effect”


                        หลักกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์สิทธิมนุษยชน นอกจากส่งผลกระทบทางตรงต่อการแสดง
               ความคิดเห็นโดยตรง เช่น ลงโทษจำาคุกผู้เผยแพร่เนื้อหา ระงับการทำาให้แพร่หลายหรือเซ็นเซอร์เนื้อหา

               แล้วยังส่งผลให้เกิดผลกระทบในทางอ้อมได้ ตัวอย่างเช่น องค์ประกอบความผิดที่กว้างและคลุมเครือ (Overbroad





                          57      เช่น การสื่อสารข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐต่อสาธารณะให้ทำาการ “เช็คก่อนแชร์” ทำาให้เกิด
               การรับรู้ของประชาชนว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเป็นสิ่งชั่วร้ายหรือเป็นอาชญากรรมในตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการสร้าง
               หน้าที่ ตรวจสอบข้อมูล แต่ในอีกแง่หนึ่ง การแชร์ “ข้อมูลเท็จ” ให้สังคมรับรู้ ก็เป็นวิธีการหนึ่งของการตรวจสอบข้อมูล
               เพื่อประกอบการแสดงความคิดเห็นต่อไป
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65